ฆ่าโหดพ่อค้ากุหลาบ-เมียพม่าคาบ้านพักแม่สอด

ตาก - ฆ่าโหดเสี่ยใหญ่พ่อค้ารับซื้อดอกกุหลาบรายใหญ่พร้อมเมียพม่าคาบ้านที่แม่สอด คนร้ายใช้มีดจ้วงแทงท้องเป็นรูพรุน ไส้ทะลัก

วันนี้ (8 พ.ค.) พ.ต.ท.ศรายุทธ คงทอง พนักงานสอบสวน ทำหน้าที่สารวัตรเวร สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 179 หมู่ที่ 3 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ จากนั้น ได้รุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมจิตร ทองแท่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก, พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.แม่สอด พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลแม่สอด และ อปพร.เทศบาลนครแม่สอด

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในบ้านไม้สักชั้นเดียว ภายในบ้านพบศพนายมนฑา แสงรักษา อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายเสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนสั้นลายสกอต นุ่งกางเกงขายาวสีเขียว มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณหน้าท้องเป็นรูพรุน 5 รู จนไส้ทะลัก เลือดไหลนองพื้น

ภายในห้องพบร่องรอยการต่อสู้ และพบมีดอีโต้ยาวประมาณ 2 ฟุตตกอยู่ห่างกันประมาณ 4 เมตร บริเวณห้องครัวพบศพนางมะซานแว อายุ 35 ปี ชาวพม่า ภรรยาผู้ตายนอนเสียชีวิตในสภาพนุ่งผ้าถุงลายสวมเสื้อแขนสั้นสีแดง มีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าท้อง 3 แผล โดยทั้งสองศพคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่กลางดึกคืนที่ผ่านมา จึงนำศพทั้งสองส่งโรงพยาบาลแม่สอด เพื่อพิสูจน์อีกครั้ง

จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเช้า นายมนตรี แสงรักษา อายุ 35 ปี บุตรชายนายมนฑาที่อาศัยอยู่ที่โกดังห่างบ้านเกิดเหตุประมาณ 2 กม.ได้โทรศัพท์มาหานายมนตรีเพื่อสอบถามเรื่องการส่งกุหลาบ แต่นายมนฑาไม่รับสาย จึงได้ขับรถมาหาที่บ้าน พบประตูรั้วบ้านใส่กุญแจจึงปีนเข้าไป ส่วนประตูบ้านไม่ได้ล็อก เมื่อเปิดเข้าไปภายบ้านจึงพบศพนายมนฑา และนางมะซานแวถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว

ทั้งนี้ นายมนฑาเป็นบุคคลมีฐานะ มีอาชีพเป็นพ่อค้ารับซื้อดอกกุหลาบรายใหญ่ เพื่อส่งไปขายยังกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีเงินหมุนเวียนวันละหลายแสนบาท และช่วงนี้กำลังมีรายได้ดีเพราะดอกกุหลาบเริ่มจำหน่ายได้ดีในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์

ส่วนนางมะซานแว เป็นภรรยาใหม่ เพราะนายมนฑาได้เลิกกับภรรยาคนก่อน ซึ่งนอกจากนางมะซานแวจะช่วยจัดการเรื่องรับซื้อกุหลาบแล้ว ยังมีอาชีพเป็นคนรับโอนเงินกลับประเทศพม่าให้กับแรงงานพม่าที่อาศัยในแม่สอดอีกด้วย