ตราด - หนุ่มใหญ่ช่างเฟอร์นิเจอร์เลือดร้อน แทงวัยรุ่นดับหน้าคาราโอเกะเกาะช้าง ตำรวจนำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากตำรวจกว่า 20 นาย
วันนี้ (11 ธ.ค.) พ.ต.ท.ประสาท สามารถกุล สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุสมาคมกู้ภัยบุญช่วยเหลือ จ.ตราด เขตอ.เกาะช้าง ว่า ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทมีการใช้อาวุธมีดแทงกันบริเวณหน้าร้านคาราโอเกะภายในซอยเอทีวี เหมู่ 4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง และมีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที พร้อม พ.ต.อ.สุจินต์ มีกะจิตต์รอง ผบก.ภ.จว.ตราด รักษาการ ผกก.สภ.เกาะช้าง พ.ต.ท.ไพฑูรย์ แสวงศักดิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ศรีสุพรรณ รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.คมสรร คำตุ่นแก้ว สว.สส.และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญไม่มีเลขที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงไฟในร้านได้เปิดสว่างอยู่ ที่บริเวณโต๊ะนั่งคอนกรีตหน้าร้าน พบกองเลือดไหลเปรอะเปื้อนบนพื้น จากการสอบสวนนายชาญชัย ดำงูเหลือม อายุ 44 ปี เจ้าของร้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุหลังจากปิดร้านได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจึงออกมาดู พบผู้บาดเจ็บถูกแทงนอนจมกองเลือดอยู่ จึงติดต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำส่งโรงพยาบาลแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทราบชื่อคือ นายสรยศ เรืองแจ่ม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 2 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมปลอกผลไม้ เข้าที่บริเวณราวนมซ้าย และบริเวณลำคอด้านซ้าย
ส่วนผู้ที่ก่อเหตุคือนายสำราญ สุขพะนัด อายุ 44 ปี อาชีพรับจ้างทำเฟอร์นิเจอร์ ภูมิลำเนาอยู่ อ.เซกา จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เกาะช้าง สามารถตามตัวได้หลังจากเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่งย่านหาดทรายขาว โดยนายสำราญได้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นได้ไปนั่งดื่มสุราที่ร้านคาราโอเกะใกล้กัน จนมีอาการมึนเมา
แต่ขณะขับรถจักยานยนต์กลับที่พักก็ได้เหลือบไปเห็นคนรู้จักกันนั่งอยู่ จึงได้แวะลงไปทักทายพูดคุยด้วยแต่กลับถูกนายสรยศ ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันพูดจาแบบนักเลงใส่จึงเกิดความโมโหหันไปหยิบมีดปลายแหลมที่วางอยู่ใต้เบาะรถมาจ้วงแทงที่หน้าอกและลำคอ 2 ครั้ง ก่อนหลบหนี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพยังที่เกิดเหตุท่ามกลางญาติของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านที่สนใจมามุงดูเป็นจำนวนมาก จนต้องใช้กำลังตำรวจ นปพ.กว่า 20 นายมาคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด