พีทีที โกลบอลฯ คาดดีลซื้อหุ้น 51% ใน Perstorp แล้วเสร็จ พ.ค.นี้พร้อมจ่อซื้อหุ้นครบ 100% ภายใน 3 ปีข้างหน้า เผยขณะนี้ มีนักลงทุนหลายรายรุมจีบ เพื่อเข้าร่วมทุน ยันยังไม่ตัดสินใจตั้งโรงงานผลิต Isocyanate ในไทย พร้อมสนใจลงทุนในแถบอาเซียนแต่จะทำงานเป็นทีมร่วมกับกลุ่ม ปตท.
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)(PTTGC) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติให้การดำเนินการซื้อหุ้นบริษัท Perstorp Holding France SAS สัดส่วน 51%นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามเงื่อนไขข้อบังคับจากหน่วยงานราชการตามข้อกฎหมายของฝรั่งเศสก่อน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการต่อต้านการผูกขาด (Anti trust) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้
ซึ่งบริษัทฯได้ทำข้อตกลงกับPerstorp Holding France SAS ที่จะเข้าไปซื้อหุ้นให้ครบ 100%ภายใน 3ปีข้างหน้า การตัดสินใจเข้าถือหุ้นใน Perstorp Holding France SAS ทำให้บริษัทเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในทันที ซึ่ง Perstorp Holding France มีเทคโนโลยีในการผลิต Isocyanate ที่มีบทบาทสำคัญในยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มของ Toluene diisocyanate (TDI), Hexamethylene diisocyanate (HDI) และ Derivatives ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตพลาสติก Polyurethane (PU) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตโฟมและสารเคลือบในอุตสาหกรรมยานยนต์และสิ่งก่อสร้าง
ส่วนการตัดสินใจตั้งโรงงานผลิต Isocyanate ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจขึ้นอยู่กับบรรยากาศการลงทุนในประเทศว่าเอื้อต่อการลงทุนหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าหลายโครงการปิโตรเคมีขั้นกลางยังไม่ผ่านการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)แต่อย่างใด
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า หลังจากบริษัทฯตัดสินใจซื้อหุ้น Perstorp Holding France ทำให้มีนักลงทุนหลายรายสนใจที่จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทฯเพื่อทำตลาดธุรกิจนี้ เนื่องจากความต้องการใช้โพลียูรีเทนมีการเติบโตสูง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมองโอกาสการลงทุนปิโตรเคมีในประเทศแถบอาเซียนด้วย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย โดยการลงทุนในภูมิภาคนี้จะทำงานร่วมกับกลุ่มปตท. เช่น ขณะนี้ปตท.ได้เข้าไปช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงกลั่นน้ำมันในประเทศติมอร์เลสเต เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีน้ำมันดิบและคอนเดนเสท และปตท.ก็มีความเชี่ยวชาญ ส่วนจะมีการตัดสินใจลงทุนโรงกลั่นหรือไม่นั้นยังเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบ ขณะที่พม่าและกัมพูชาก็เป็นประเทศที่กลุ่มปตท.สนใจเข้าไปลงทุนในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีเช่นกัน
ส่วนการลงทุนตั้งโรงงานผลิตไบโอพลาสติกประเภท PLA ในไทยภายหลังจากบริษัทฯเข้าไปหุ้นในNatureWorks LLC 50%นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตPLA เนื่องจากเทคโนโลยีในการผลิตPLA ที่สหรัฐฯใช้ข้าวโพด แต่หากต้องการตั้งโรงงานในไทยมีแผนจะใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลังหรืออ้อยแทน ทำให้ต้องศึกษาอย่างรอบคอบก่อนคาดว่าคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นการร่วมมือระหว่างบริษัทฯกับ มิตซูบิชิ เคมิคอล คอร์ปอเรชั่นเพื่อผลิตไบโอพลาสติกชนิดPBSจากน้ำตาลในประเทศไทยเร็วกว่า เนื่องจากมีความคืบหน้าถึงการตั้งบริษัทร่วมทุนกันแล้ว
สำหรับการลงทุนในประเทศนั้น ขณะนี้คณะกรรมกาารบริษัทฯได้อนุมัติการลงทุนส่วนขยายคอขวดโรงงานอะโรเมติกส์ 2 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนขึ้นด้วย โดยจะใช้เงินลงทุนไม่มากนัก นอกจากนี้ยังศึกษาโอกาสการลงทุนต่อยอดธุรกิจ เช่น มิกซ์ซี 4 นำไปเพิ่มมูลค่าเพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติกLLDPE เป็นต้น ส่วนเบนซีนก็อยู่ระหว่างเจรจากับอูเบะ เพื่อนำไปผลิตเป็นคาโปรแลกตัม ซึ่งปัจจุบันอูเบะก็มีการผลิตคาโปรแลกตัมอยู่แล้วในไทย รวมทั้งมีแผนลดต้นทุนการผลิตโดยนำความร้อนที่ปล่อยทิ้งในกระบวนการผลิตมาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตหรือจำหน่ายให้การไฟฟ้าด้วย
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)(PTTGC) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติให้การดำเนินการซื้อหุ้นบริษัท Perstorp Holding France SAS สัดส่วน 51%นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามเงื่อนไขข้อบังคับจากหน่วยงานราชการตามข้อกฎหมายของฝรั่งเศสก่อน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการต่อต้านการผูกขาด (Anti trust) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้
ซึ่งบริษัทฯได้ทำข้อตกลงกับPerstorp Holding France SAS ที่จะเข้าไปซื้อหุ้นให้ครบ 100%ภายใน 3ปีข้างหน้า การตัดสินใจเข้าถือหุ้นใน Perstorp Holding France SAS ทำให้บริษัทเป็นเจ้าของเทคโนโลยีในทันที ซึ่ง Perstorp Holding France มีเทคโนโลยีในการผลิต Isocyanate ที่มีบทบาทสำคัญในยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มของ Toluene diisocyanate (TDI), Hexamethylene diisocyanate (HDI) และ Derivatives ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตพลาสติก Polyurethane (PU) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตโฟมและสารเคลือบในอุตสาหกรรมยานยนต์และสิ่งก่อสร้าง
ส่วนการตัดสินใจตั้งโรงงานผลิต Isocyanate ในประเทศไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจขึ้นอยู่กับบรรยากาศการลงทุนในประเทศว่าเอื้อต่อการลงทุนหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าหลายโครงการปิโตรเคมีขั้นกลางยังไม่ผ่านการอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA)แต่อย่างใด
แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า หลังจากบริษัทฯตัดสินใจซื้อหุ้น Perstorp Holding France ทำให้มีนักลงทุนหลายรายสนใจที่จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทฯเพื่อทำตลาดธุรกิจนี้ เนื่องจากความต้องการใช้โพลียูรีเทนมีการเติบโตสูง นอกจากนี้ บริษัทฯยังมองโอกาสการลงทุนปิโตรเคมีในประเทศแถบอาเซียนด้วย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย โดยการลงทุนในภูมิภาคนี้จะทำงานร่วมกับกลุ่มปตท. เช่น ขณะนี้ปตท.ได้เข้าไปช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงกลั่นน้ำมันในประเทศติมอร์เลสเต เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีน้ำมันดิบและคอนเดนเสท และปตท.ก็มีความเชี่ยวชาญ ส่วนจะมีการตัดสินใจลงทุนโรงกลั่นหรือไม่นั้นยังเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบ ขณะที่พม่าและกัมพูชาก็เป็นประเทศที่กลุ่มปตท.สนใจเข้าไปลงทุนในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีเช่นกัน
ส่วนการลงทุนตั้งโรงงานผลิตไบโอพลาสติกประเภท PLA ในไทยภายหลังจากบริษัทฯเข้าไปหุ้นในNatureWorks LLC 50%นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตPLA เนื่องจากเทคโนโลยีในการผลิตPLA ที่สหรัฐฯใช้ข้าวโพด แต่หากต้องการตั้งโรงงานในไทยมีแผนจะใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลังหรืออ้อยแทน ทำให้ต้องศึกษาอย่างรอบคอบก่อนคาดว่าคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นการร่วมมือระหว่างบริษัทฯกับ มิตซูบิชิ เคมิคอล คอร์ปอเรชั่นเพื่อผลิตไบโอพลาสติกชนิดPBSจากน้ำตาลในประเทศไทยเร็วกว่า เนื่องจากมีความคืบหน้าถึงการตั้งบริษัทร่วมทุนกันแล้ว
สำหรับการลงทุนในประเทศนั้น ขณะนี้คณะกรรมกาารบริษัทฯได้อนุมัติการลงทุนส่วนขยายคอขวดโรงงานอะโรเมติกส์ 2 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนขึ้นด้วย โดยจะใช้เงินลงทุนไม่มากนัก นอกจากนี้ยังศึกษาโอกาสการลงทุนต่อยอดธุรกิจ เช่น มิกซ์ซี 4 นำไปเพิ่มมูลค่าเพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติกLLDPE เป็นต้น ส่วนเบนซีนก็อยู่ระหว่างเจรจากับอูเบะ เพื่อนำไปผลิตเป็นคาโปรแลกตัม ซึ่งปัจจุบันอูเบะก็มีการผลิตคาโปรแลกตัมอยู่แล้วในไทย รวมทั้งมีแผนลดต้นทุนการผลิตโดยนำความร้อนที่ปล่อยทิ้งในกระบวนการผลิตมาผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตหรือจำหน่ายให้การไฟฟ้าด้วย