xs
xsm
sm
md
lg

ชอร์ตเซลดุ1เดือนแรกปี55ทะลุ7พันล. แนวโน้มทั้งปีเติบโตต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-นายกสมาคมโบรกเกอร์ เผย ธุรกรรมเอสบีแอล ปีนี้แนวโน้มเติบโตมากขึ้น จากภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวน แจง การชอร์ตเซลดั้มตลาด แต่เป็นเครื่องมือบริหารพอร์ตลงทุน ขณะยอดชอร์ตเซลเดือนแรก 7 พันล้านบาท แบงก์กสิกรไทย ถูกขายมากสุด 957 ล้านบาท

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า การทำธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) เพื่อไป ขายชอร์ตในปีนี้เชื่อว่าจะมีปริมาณในการทำมากขึ้น เนื่องจาก ภาวะตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนสูง ซึ่งปัจจัยหลักจากวิกฤตหนี้ยุโรป ทำให้นักลงทุนมีการยืมหุ้นเพื่อมาขายชอร์ตเซลเพื่อทำกำไร

ทั้งนี้ส่วนตัวไม่อยากให้มองว่าการยืมหุ้นเพื่อมาขายชอร์ตเซลในแง่ลบที่จะเข้าไปขายในราคาที่ต่ำกว่าตลาด (ดั้มราคา)ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรง แต่ที่จริงแล้วการขายชอร์ตเซลนั้นจะขายได้ที่ราคาตลาด ไม่สามารถที่จะเข้าไปขายราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดได้ แต่อาจมีผลกระทบบ้างแต่ไม่ใช่เป็นตัวนำที่ทำให้ตลาดปรับตัวลดลง โดยส่วนตัวอยากให้มองว่าการขายชอร์ตเป็นอีกช่องทางหรือเครื่องมือหนึ่งในการให้นักลงทุนสามารถเข้ามาใช้เพื่อทำกำไรและในการดูแลพอร์ตการลงทุนของตนเอง

"ธุรกรรมSBLปีนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น แต่ไม่ยอากให้มองเรื่องดังกล่าวในแง่ร้าย ที่จะเข้ามาดั้มตลาดให้มีการปรับตัวลดลงแรงเพราะการนำหุ้นไปขายชอร์ตนั้นจะต้องคีย์ที่ราคาตลาด จะขายต่ำกว่าราคาตลาดไม่ได้ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อตลาดบ้างแต่ไม่ได้เป็นตัวนำให้ตลาดลงแรง "นางภัทธีรา กล่าว

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันถือว่าการทำธุรกรรมการยืมและใช้ยืมหลักทรัพย์ เพื่อขายชอร์ต นั้นยังมีปริมาณการทำไม่มาก เนื่องจาก ติดปัญหาจำนวนหุ้นที่นำมาให้ยืมไม่มาก ทำให้ธุรกรรมดังกล่าวยังเติบโตไม่มากนัก

ด้านนายจักรกริช เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนรู้จักธุรกรรมSBL มากขึ้น เห็นได้จากการเติบโตในปีที่ผ่านมา ส่วนในปีนี้จะมีการใช้ธุรกรรมดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่ภาวะของตลาดหุ้น อีกทั้งขึ้นอยู่กับความเข้าใจเลือกใช้เครื่องมือในการลงทุนด้วย ซึ่งภาพรวมเชื่อว่าน่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน สำหรับแนวโน้มตาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ ประเมินว่ายังแรงหนุนเข้ามาจากฟันด์โฟวล์ที่ยังไหลเข้าในภูมิภาค หลังธนาคารกลางสหรัฐฯประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ส่วนวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ แม้จะมีการเคลียร์กับเจ้าหนี้ได้ แต่ปัญหาทุกอย่างยังไม่ได้ยุติลง ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตา คือ การตีความในเรื่องพ.ร.ก.กู้เงินของรัฐบาลที่ฝ่ายค้านยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ด้วย

จากการรวบรวมข้อมูลการการขายชอร์ต หรือ ชอร์ตเซล เดือนแรกปีนี้ พบว่า มูลค่า 7,064 .10 ล้านบาท จำนวน 91 หลักทรัพย์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดือนกันปีก่อนที่อยู่ที่ 7,011.65 ล้านบาท จำนวน 92 หลักทรัพย์ โดยหุ้นที่มีการขายชอร์ตมากสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK มีมูลค่าขายชอร์ต 957.32 ล้านบาท 2. บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ PTTEP มีมูลค่าขายชอร์ต 836.66 ล้านบาท 3.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)หรือ SCB มีมูลค่าขายชอร์ต 609.33 ล้านบาท4. บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มูลค่าขายชอร์ต 446.70 ล้านบาท 5. บริษัทบ้านปูจำกัด (มหาชน)หรือ BANPU มีมูลค่าขายชอร์ต 433.80 ล้านบาท

6. บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มีมูลค่าขายชอร์ต 323.80 ล้านบาท 7. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BBL มีมูลค่าขายชอร์ต 300.94 ล้านบาท 8. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC มีมูลค่าขายชอร์ต 278.06 ล้านบาท 9.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOPมีมูลค่าขายชอร์ต 270.52 ล้านบาท 10 บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC มูลค่าขายชอร์ต 237.82 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น