xs
xsm
sm
md
lg

ชอร์ตเซลพุ่ง ยอดซื้อขายทะลุแสนล้าน-มูลค่าโตกว่าทั้งปีก่อนเท่าตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มูลค่าชอร์ตเซล 11 เดือนปีนี้พุ่งกระฉูด ทำนิวไฮด์ต่อเนื่อง แตะ 1 แสนล้านบาท โตกว่าเท่าตัวจากทั้งปีที่มีก่อนมูลค่า 5.26 หมื่นล้านบาท เหตุตลาดหุ้นไทยผันผวนสูง "ผู้บริหาร" บล.บัวหลวง คาดปีหน้าโต 50% แจงช่วง ส.ค.-พ.ย.นักลงทุนแห่ขายชอร์ตสูงเท่ากับทั้งปีก่อน หลังดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงเกือบ 290 จุด

จากการรวบรวมข้อมูลการการขายชอร์ต หรือ ชอร์ตเซล ในช่วง 11 เดือนปีนี้ พบว่า มูลค่า 107,314.62 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการเปิดทำธุรกิจ และเพิ่มขึ้น104% จากปี 2553 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 52,604.75 ล้านบาท เนื่องจาก ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงจากปัจจัยต่างประเทศเรื่องวิฤตหนี้ของยุโรป และปัจจัยภายในประเทศโดยเดือนที่มีมูลค่าขายชอร์ตสูงสุดคือ เดือนตุลาคม มีมูลค่า 22,480 ล้านบาท ซึ่งดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 58.54 จุด หรือ 6.39% แต่ระหว่างเดือนดัชนีแกว่งตัวแรง 119.30 จุดจากดัชนีต่ำสุดที่ 885.45 จุด ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 974.75 จุด รองมาคือเดือนกันยายนที่มีมูลค่า18,500 ล้านบาท ดัชนีปรับตัวลดลง 153.84 จุด หรือลดลง 14.38% โดยมีการแกว่งตัวระหว่างเดือนสูงถึง 168 .15 จุด จากดัชนีต่ำสุดที่ 904.06 จุดและดัชนีสูงุสดที่ 1,072 จุด ด้านมูลค่าการซื้อขายชอร์ตเดือนพฤศจิกายนนี้อยู่ที่ 13,924.82 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการขายชอร์ตมากสุด 10 อันดับแรกในช่วง 11 เดือนปีนี้ประกอบด้วย 1.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BBL มีมูลค่าขายชอร์ต 10,292.54 ล้านบาท 2.บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มูลค่าขายชอร์ต 10,176.18 ล้านบาท 3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)หรือ KBANK มีมูลค่าขายชอร์ต 8,274.17 ล้านบาท 4. บริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน)หรือ BANPU มีมูลค่าขายชอร์ต 6,936.59 ล้านบาท 5. บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)หรือ IVL มีมูลค่าขายชอร์ตจำนวน 6,408 ล้านบาท

6. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOPมีมูลค่าขายชอร์ต 6,408 ล้านบาท 7.บริษัทปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือ PTTCH มีมูลค่าขายชอร์ต จำนวน 6,084.37ล้านบาท 8.ธนาคารไทยพาณิชย์ มีมูลค่าขายชอร์ต 6,037.91 ล้านบาท 9. บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ PTTEP มีมูลค่าขายชอร์ต 5,341.03 ล้านบาท 10 บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC มีมูลค่าขายชอร์ต 5,091.29ล้านบาท

นายวสันต์ จันทร์สัจจา ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง3 เดือน (ส.ค.-พ.ย.)
มูลค่าการขายชอร์ตมีมูลค่าสูงถึง 51,500 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับทั้งปี2553 เนื่องจาก ในช่วงเดือนสิงหาคมดัชนีตลาดหุ้นไทยได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ที่ 1,114 จุด และมีการปรับตัวลดลงแรงถึง 289 จุด มาอยู่ที่ 855.45 จุด ในวันที่ 4 ตุลาคม

ทั้งนี้จึงทำให้ในช่วงนั้นดัชนีมีทิศทางปรับตัวลดลงนั้นทำให้นักลงทุนแห่กันเข้ามายืมหุ้นเพื่อนำไปขายชอร์ตจำนวนมาก จากนักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกรรมการยืมและให้ยืมหุ้น SBL มากขึ้น นอกจากนี้การที่ทุกบริษัทหลักทรัพย์หันมาให้บริการดังกล่าวมากขึ้น และการที่มีการออกเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)นั้นทำให้บล.ที่มีการออกเสนอขายมีการยืมหุ้นเพื่อนำไปรองรับในการทำธุรกรรมดังกล่าวได้จึงทำให้ในช่วง 11 เดือนปีนี้มูลค่าการขายชอร์ตปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึงกว่า 1 แสนล้านบาท แม้ในช่วงนี้ปีนี้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการห้ามไม่ให้บล.มีการทำโปรโมชั่นSBL

สำหรับแนวโน้มการขายชอร์ตปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 30-50%จากปีหน้าเนื่องจาก นักลงทุนมีความรู้จักและเข้าใจธุรกรรมดังกล่าวและทางเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง)มีความชำนาญในเรื่องดังกล่าว จึงทำให้หากดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้ามีความผันผวน และหากมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับปัญหาทางยุโรป และอเมริกาออกมานักลงทุนพร้อมที่จะมีการยืมหุ้นเพื่อไปขายชอร์ต และหากมีข่าวดีเข้ามาก็มีนักลงทุนที่ยืมหุ้นไปชอร์ตเช่นกัน เช่น ในวันที่ 1 ธันวาคม ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 28 จุด มีมูลค่าขายชอร์ตถึง 600 ล้านบาท

นายวสันต์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าปีหน้าจะมีมูลค่าธุรกรรมSBL 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100%จากปีนี้ที่ 1,200 ล้านบาท จากการที่บริษัทได้มีการพัฒนาระบบการทำธุรกรรมดังกล่าวเพิ่งเสร็จในช่วงเดือนสิงหาคม และปีหน้าบริษัทจะมีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพในการบริหารที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีการให้ยืมหุ้นอยู่จำนวน 83 หลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ที่SET 100

ก่อนหน้านี้นายมนตรี ศรีไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หรือ MBKET กล่าวว่า ในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมาลูกค้าของบริษัทเข้ามาใช้บริหารยืมและให้ยืมหุ้น (SBL)ในการนำหุ้นไปขายชอร์ตเพื่อทำกำไร จำนวนมาก จากภาวะตลาดที่มีความผันผวนทำให้ดส่วนแบ่งการตลาด มาร์เกตแชร์SBL ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 50-60% โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมที่มีมูลค่าขายชอร์ตจำนวนมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น