ASTVผู้จัดการรายวัน - ส.นักประเมินคาดไตรมาส 2 ฟื้นตัว ราคาประเมินไม่ตก ขณะที่นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร มั่นใจผู้อยู่อาศัย 60% ไม่ย้ายทำเลหนีน้ำท่วม เหตุเป็นแหล่งที่ทำมาหากิน จับตาบ้านหรู คนรวยส่อทิ้งดาวน์
วานนี้ (2 ก.พ.) สมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย จัดเวทีสัมมนาระดมความคิดเห็นภาคเอกชน ภายใต้หัวข้อ “อสังหาริมทรัพย์ หลังน้ำลด ทิศทางและ มาตรการฟื้นฟู” โดยมีตัวแทนจากวงการอสังหาริมทรัพย์ บริษัทประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนจากภาคนิคมอุตสาหกรรม และตัวแทนจากธุรกิจค้าปลีก
นายไพรัช มณฑาพันธุ์ นายกสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย กล่าวว่า หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ และคาดว่าจะฟื้นตัวเป็นปกติได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งแตกต่างกับช่วงที่เกิดน้ำท่วมจนถึงปัจจุบัน พบว่าธุรกรรมการซื้อขายที่ดิน หรือบ้านในพื้นที่ที่น้ำท่วมเกิดขึ้นน้อยมาก ทำให้สถานการณ์การประเมินราคาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ถือว่ายังไม่นิ่ง
“ หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ว่าจะ เกิดขึ้น อีกหรือไม่ ซึ่งหากวิเคราะห์กันตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดมากกว่าเป็นภัยธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้น พื้นที่ที่เจอน้ำท่วมในช่วงปลายปีหลายแห่งยังมีศักยภาพ หากเจ้าของที่ดินไม่รีบขาย มีโอกาสที่จะยังขายได้ในราคาที่ดิน แต่หากเจ้าของที่ดินรีบขายต้องยอมรับว่า ราคาคงลดลงจากช่วงเวลาปกติประมาณ 10-15%”
****บ้านไม่แพงโซนน้ำท่วมขายได้
ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า แนวโน้มการฟื้นตัวหลังน้ำท่วม ถือว่าดี
ขึ้นมาก จากเดิมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายเล็กที่ทำโครงการอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมกังวลเรื่องคนไม่ซื้อ กังวลเรื่องสินเชื่อโครงการ แต่ปลายเดือนม.ค. สมาชิกของสมาคมฯ หลายรายเริ่มส่งสัญญาณเป็นบวก และระบุว่า บ้านราคาไม่แพง ประมาณ 1-3 ล้านบาท ที่เป็นบ้านหลังแรก หรือที่เรียกว่า เรียล ดีมานด์ มีการทิ้งดาวน์น้อยมาก น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไม่ถึง 5-10% ซึ่งถือว่าดีมาก กำลังซื้อบ้านหลังใหม่ๆ ก็เริ่มกลับมา
“ ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่น้ำท่วมกว่า 60% ไม่ย้ายทำเล ยังคงอยู่ในทำเลเดิม เพราะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมานาน เป็นที่ที่มีแหล่งงาน ทำให้ไม่สามารถย้ายถิ่นฐานได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกให้กับบ้านโครงการใหม่ๆ ที่อยู่ในย่านนั้น เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะลูกค้าเชื่อมั่นว่าบ้านโครงการใหม่ๆ จะมีการวางระบบป้องกันน้ำท่วม มีการถมที่ดินสูงขึ้น ซึ่งจะไม่ทำให้น้ำท่วมบ้าน”
แต่ในมุมของโครงการบ้านหรูนั้น คาดว่าที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม มีโอกาสที่จะทิ้งดาวน์สูง เพราะเป็นกลุ่มที่มีทางเลือก มีกำลังซื้อสูง สามารถที่จะซื้อบ้านหลังที่ 2 ในเมืองได้ และมองว่าหากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องระบบป้องกันน้ำที่ดีในพื้นที่เหล่านั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อบ้านในทำเลที่มีโอกาสเสี่ยงน้ำท่วมหนัก ซึ่งจากการสำรวจผู้ประกอบการรายเล็กที่พัฒนาโครงการจัดสรรบางราย เริ่มหากลยุทธ์รับประกันบ้านน้ำไม่ท่วม หากน้ำท่วมภายใน 3 ปี ยินดีจ่ายเงินชดเชยให้ลูกค้า 1 แสนบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า และดึงดูดให้เกิดการตัดสินใจ หลังจากที่ปัจจุบันบริษัทรับประกันภัยยังไม่รับทำประกันอุทกภัย
สำหรับภาคอุตสาหกรรม นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รัฐบาลควรมีนโยบายคืนภาษีให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่โดนน้ำท่วมที่มีแนวคิดที่จะก่อสร้างแนวป้องกันน้ำ หรือเขื่อนป้องกัน แทนการออกนโยบายให้กู้เงินสำหรับทำแนวป้องกันน้ำท่วม เพราะเงินกู้เหล่านั้น มีต้นทุนทางการเงิน ส่วนเรื่องการย้ายฐานไปต่างประเทศของผู้ผลิตในไทย คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การย้ายฐานภายในประเทศเอง คงเกิดขึ้น และนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมรอบที่ผ่านมา คงได้รับอานิสงส์
วานนี้ (2 ก.พ.) สมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย จัดเวทีสัมมนาระดมความคิดเห็นภาคเอกชน ภายใต้หัวข้อ “อสังหาริมทรัพย์ หลังน้ำลด ทิศทางและ มาตรการฟื้นฟู” โดยมีตัวแทนจากวงการอสังหาริมทรัพย์ บริษัทประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนจากภาคนิคมอุตสาหกรรม และตัวแทนจากธุรกิจค้าปลีก
นายไพรัช มณฑาพันธุ์ นายกสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย กล่าวว่า หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ และคาดว่าจะฟื้นตัวเป็นปกติได้ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งแตกต่างกับช่วงที่เกิดน้ำท่วมจนถึงปัจจุบัน พบว่าธุรกรรมการซื้อขายที่ดิน หรือบ้านในพื้นที่ที่น้ำท่วมเกิดขึ้นน้อยมาก ทำให้สถานการณ์การประเมินราคาที่ดิน และที่อยู่อาศัย ถือว่ายังไม่นิ่ง
“ หลายฝ่ายยังไม่มั่นใจในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ว่าจะ เกิดขึ้น อีกหรือไม่ ซึ่งหากวิเคราะห์กันตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดมากกว่าเป็นภัยธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้น พื้นที่ที่เจอน้ำท่วมในช่วงปลายปีหลายแห่งยังมีศักยภาพ หากเจ้าของที่ดินไม่รีบขาย มีโอกาสที่จะยังขายได้ในราคาที่ดิน แต่หากเจ้าของที่ดินรีบขายต้องยอมรับว่า ราคาคงลดลงจากช่วงเวลาปกติประมาณ 10-15%”
****บ้านไม่แพงโซนน้ำท่วมขายได้
ด้านนายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า แนวโน้มการฟื้นตัวหลังน้ำท่วม ถือว่าดี
ขึ้นมาก จากเดิมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรายเล็กที่ทำโครงการอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมกังวลเรื่องคนไม่ซื้อ กังวลเรื่องสินเชื่อโครงการ แต่ปลายเดือนม.ค. สมาชิกของสมาคมฯ หลายรายเริ่มส่งสัญญาณเป็นบวก และระบุว่า บ้านราคาไม่แพง ประมาณ 1-3 ล้านบาท ที่เป็นบ้านหลังแรก หรือที่เรียกว่า เรียล ดีมานด์ มีการทิ้งดาวน์น้อยมาก น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ไม่ถึง 5-10% ซึ่งถือว่าดีมาก กำลังซื้อบ้านหลังใหม่ๆ ก็เริ่มกลับมา
“ ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่น้ำท่วมกว่า 60% ไม่ย้ายทำเล ยังคงอยู่ในทำเลเดิม เพราะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยมานาน เป็นที่ที่มีแหล่งงาน ทำให้ไม่สามารถย้ายถิ่นฐานได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกให้กับบ้านโครงการใหม่ๆ ที่อยู่ในย่านนั้น เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะลูกค้าเชื่อมั่นว่าบ้านโครงการใหม่ๆ จะมีการวางระบบป้องกันน้ำท่วม มีการถมที่ดินสูงขึ้น ซึ่งจะไม่ทำให้น้ำท่วมบ้าน”
แต่ในมุมของโครงการบ้านหรูนั้น คาดว่าที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม มีโอกาสที่จะทิ้งดาวน์สูง เพราะเป็นกลุ่มที่มีทางเลือก มีกำลังซื้อสูง สามารถที่จะซื้อบ้านหลังที่ 2 ในเมืองได้ และมองว่าหากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องระบบป้องกันน้ำที่ดีในพื้นที่เหล่านั้น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อบ้านในทำเลที่มีโอกาสเสี่ยงน้ำท่วมหนัก ซึ่งจากการสำรวจผู้ประกอบการรายเล็กที่พัฒนาโครงการจัดสรรบางราย เริ่มหากลยุทธ์รับประกันบ้านน้ำไม่ท่วม หากน้ำท่วมภายใน 3 ปี ยินดีจ่ายเงินชดเชยให้ลูกค้า 1 แสนบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า และดึงดูดให้เกิดการตัดสินใจ หลังจากที่ปัจจุบันบริษัทรับประกันภัยยังไม่รับทำประกันอุทกภัย
สำหรับภาคอุตสาหกรรม นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า รัฐบาลควรมีนโยบายคืนภาษีให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่โดนน้ำท่วมที่มีแนวคิดที่จะก่อสร้างแนวป้องกันน้ำ หรือเขื่อนป้องกัน แทนการออกนโยบายให้กู้เงินสำหรับทำแนวป้องกันน้ำท่วม เพราะเงินกู้เหล่านั้น มีต้นทุนทางการเงิน ส่วนเรื่องการย้ายฐานไปต่างประเทศของผู้ผลิตในไทย คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การย้ายฐานภายในประเทศเอง คงเกิดขึ้น และนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมรอบที่ผ่านมา คงได้รับอานิสงส์