xs
xsm
sm
md
lg

“ธปท.-ธ.กลางมาเลย์” จับมือหนุนสภาพคล่อง “บาท-ริงกิต” ใช้หลักทรัพย์ค้ำปล่อยกู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แบงก์ชาติ” เซ็นเอ็มโอยู “ธ.กลางมาเลย์” ใช้หลักทรัพย์ข้ามพรมแดนเป็นหลักประกันในการปล่อยสภาพคล่องได้ พร้อมร่วมมือในการสนับสนุนหลักประกันปล่อยสภาพคล่อง “เงินบาท-เงินริงกิต” ระหว่างสถาบันการเงินทั้ง 2 ประเทศ และเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ-การเงินระหว่างกัน

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมลงนามกับ นางเซตี้ อัคฮาร์ อาซิซ (Dr.Zeti Akhtar Aziz) ผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia -BNM) ในบันทึกข้อตกลงในการใช้หลักทรัพย์ข้ามพรมแดนระหว่างกันเป็นหลักประกันในการปล่อยสภาพคล่อง (Cross-border Collateral Arrangement - CBCA) เพื่อส่งเสริมช่องทางในการเข้าถึงสภาพคล่องของสถาบันการเงินในทั้งสองประเทศ

การลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวสะท้อนการตระหนักถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของการธนาคารข้ามพรมแดนและความสำคัญของความเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างกัน ความร่วมมือระหว่างกันนี้จะช่วยสนับสนุนการดูแลเสถียรภาพทางการเงินของธนาคารกลางทั้งสองแห่ง รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านการจัดการสภาพคล่อง

ภายใต้ข้อตกลงนี้ สถาบันการเงินที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในประเทศมาเลเซียสามารถเข้าถึงสภาพคล่องในสกุลริงกิตจาก BNM โดยเสนอหลักประกันเป็นเงินบาท หรือตราสารหนี้ของรัฐบาลไทย หรือของ ธปท.ให้กับ BNM ในขณะที่สถาบันการเงินที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในประเทศไทย สามารถเข้าถึงสภาพคล่องในสกุลบาทจาก ธปท.โดยเสนอหลักประกันเป็นเงินสกุลริงกิตหรือตราสารหนี้ของรัฐบาลมาเลเซียหรือของ BNM ให้กับ ธปท.ในลักษณะเดียวกัน

“การใช้หลักทรัพย์ข้ามพรมแดนระหว่างกันเป็นหลักประกันในการปล่อยสภาพคล่องของ ธปท.และ BNM จะเป็นรากฐานของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระหว่างกัน นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการธนาคารข้ามพรมแดนและบทบาทของธนาคารกลางทั้งสองแห่ง ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งที่จะนำไปสู่การบูรณาการด้านการเงินในระดับภูมิภาคและระดับสากล”

นางเซตี้ อัคฮาร์ อาซิซ ผู้ว่าการ BNM กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการบริหารสภาพคล่องข้ามพรมแดนระหว่างระบบการเงินของมาเลเซียและของไทย พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการเงินของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ การใช้หลักทรัพย์ข้ามพรมแดนระหว่างกันดังกล่าวจะสนับสนุนการขยายตัวทางธุรกิจในระดับภูมิภาคของสถาบันการเงินของทั้งสองประเทศ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางการเงินในระดับภูมิภาคอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น