ASTVผู้จัดการรายวัน - "เบเคอร์ฯ"ทีมทนาย"โทรีเซนไทยฯ "แจงเข้าไปพบดีเอสไอแล้ว มั่นใจหลักฐานที่มีช่วยแก้ต่างได้ ชี้บริษัทลงทุนอย่างโปร่งใสมีขั้นตอนตรวจสอบ ขู่กลับหากจงใจให้ร้ายผู้บริหารและบริษัท เตรียมดำเนินการกลับ ล่าสุด TTA รีบส่งข่าวดีปลอบขวัญผู้ถือหุ้น บอร์ดไฟเขียวปันผล 50 สตางค์ต่อหุ้น 23 ก.พ.นี้ พร้อมอนุมัติเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น ขายบุคคลในวงจำกัด เพื่อนำเงินไปใช้ขยายงานและเพิ่มความแข็งแกร่งของธุริกจ อีกทั้งดึง "นริศ เชยกลิ่น" และ "ประเสริฐ บุญสัมพันธ์"นั่งกรรมการ
นายวินท์ ภักดีจิตต์ กรรมการ จากสำนักกฎหมาย เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ประเทศไทย ในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (TTA) ในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ออกแถลงการณ์กรณี DSI เรียก TTA สอบว่า ได้ให้ความเห็นต่อ ข้อกล่าวหาของผู้ถือหุ้นที่กรมDSI แล้ว ซึ่งพบว่าเนื้อความเป็นการตั้งข้อกล่าวหาต่อ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบัญชีและการเงิน ผู้บริหารของ TTA หลายประการ
เริ่มตั้งแต่ 1. การตัดสินใจลงทุนในบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) ของ TTA นั้นเป็นการดำเนินการหลังจากที่ได้มีการวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนเข้ามาดูแล และให้คำปรึกษาแนะนำทุกขั้นตอน โดยจากข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ จึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้บริหารของ TTA จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ เนื่องจากการลงทุนใน UMS ของ TTA นั้น กระทำด้วยความโปร่งใสและเป็นไปตามขั้นตอนการเข้าซื้อกิจการอันสมควรแล้ว
2. ตามข้อมูลในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นบริษัท ผู้ถือหุ้นรายย่อยสองรายที่เป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องในครั้งนี้มีรวมกันทั้งหมด 146 หุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 2,774 บาท (ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2554) เท่านั้น ซึ่ง TTA และผู้บริหารของบริษัทยืนยันว่า พร้อมที่จะอธิบายและให้ข้อมูลหักล้างข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยเชื่อว่าผู้ถือหุ้นทั้งสองรายคงดำเนินการดังกล่าวไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
3.อย่างไรก็ดี หาก TTA พบว่ามีการกระทำใดๆ ที่พยายามจะสร้างความสับสนแก่นักลงทุน หรือทำให้ภาพลักษณ์ของ TTA เสียหาย หรือทำให้ธุรกิจของบริษัทต้องหยุดชะงัก TTA ก็จำเป็นจะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4. ดังนั้นขอเรียนย้ำว่า จนถึงบัดนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล ก็ยังมิได้ตั้งข้อกล่าวหาใดๆต่อผู้บริหารของ TTA จากเหตุข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ TTA ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ DSI อย่างเต็มที่ในการสอบสวนกรณีนี้ และก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ได้
5. จากรายงานข่าวที่ระบุว่าตัวแทนของผู้ถือหุ้นรายย่อยกลุ่มนี้ ได้ยื่นคำร้องต่อก.ล.ต.ให้ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต และคุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ พ้นจากสถานะผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนนั้น กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นผลจากความเข้าใจข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้บริหาร และผู้จัดการของบริษัทจดทะเบียน ระบุไว้ว่าผู้บริหารจะถูกตัดสิทธิ์ก็ต่อเมื่อมีการตั้งข้อกล่าวหาโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ดังนั้น การถูกกล่าวหาจากบุคคลอื่นใด จึงไม่มีผลทำให้ ผู้บริหารต้องพ้นจากสถานะดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้บริหารของ TTA ได้มอบหมายให้ทนายความไปพบเจ้าหน้าที่ DSI แล้ว เพื่อประสานงาน และจัดเตรียมเอกสาร และข้อมูลต่างๆ แก่ DSI และเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ทาง DSI จะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทางฝ่าย TTA ในเรื่องดังกล่าวนี้ ทำให้ยังคงมั่นใจว่า จากข้อมูลทั้งหมดที่บริษัทมีอยู่ จะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้อย่างแน่นอน
**จ่ายปันผลปลอบขวัญผู้หุ้น
ขณะเดียวกัน วานนี้(22ธ.ค.) ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด หรือ PP เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายงานและเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 54 จำนวน 50 สตางค์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าเงินปันผลรวมที่จะจ่ายคือ 354 ล้านบาท มีจำนวนสูงกว่าผลกำไรสุทธิในปี 54 ที่ 139 ล้านบาทถึง 2.5 เท่า ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.68% เมื่อคิดจากราคาหุ้นเฉลี่ยตลอดปี 54 โดยเงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 55 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 55
นอกจากนี้ บอร์ดฯ ยังอนุมัติการเสนอชื่อกรรมการ 3 ท่านจาก 4 ท่านที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการในเดือนมกราคม 55 ให้กลับมาเข้ารับตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง คือนายอัศวิน คงสิริ ศาสตรจารย์พิเศษอธึก อัศวานันท์ และ ดร. วรภัทร โตธนะเกษม และอนุมัติให้แต่งตั้งนายนริศ เชยกลิ่น เข้ามาเป็นกรรมการแทน ดร.ศิริ การเจริญดี ที่จะครบวาระแต่ไม่ประสงค์ดำรงตำแหน่งต่อ นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มอีกหนึ่งท่าน คือ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ดังนั้น จำนวนกรรมการของบริษัทฯ ทั้งหมดจะเพิ่มจาก 10 เป็น 11 ท่าน
นายวินท์ ภักดีจิตต์ กรรมการ จากสำนักกฎหมาย เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ประเทศไทย ในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ (TTA) ในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ออกแถลงการณ์กรณี DSI เรียก TTA สอบว่า ได้ให้ความเห็นต่อ ข้อกล่าวหาของผู้ถือหุ้นที่กรมDSI แล้ว ซึ่งพบว่าเนื้อความเป็นการตั้งข้อกล่าวหาต่อ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบัญชีและการเงิน ผู้บริหารของ TTA หลายประการ
เริ่มตั้งแต่ 1. การตัดสินใจลงทุนในบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) ของ TTA นั้นเป็นการดำเนินการหลังจากที่ได้มีการวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนเข้ามาดูแล และให้คำปรึกษาแนะนำทุกขั้นตอน โดยจากข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ จึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้บริหารของ TTA จะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนได้ เนื่องจากการลงทุนใน UMS ของ TTA นั้น กระทำด้วยความโปร่งใสและเป็นไปตามขั้นตอนการเข้าซื้อกิจการอันสมควรแล้ว
2. ตามข้อมูลในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นบริษัท ผู้ถือหุ้นรายย่อยสองรายที่เป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้องในครั้งนี้มีรวมกันทั้งหมด 146 หุ้น หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 2,774 บาท (ราคาปิดตลาด ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2554) เท่านั้น ซึ่ง TTA และผู้บริหารของบริษัทยืนยันว่า พร้อมที่จะอธิบายและให้ข้อมูลหักล้างข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยเชื่อว่าผู้ถือหุ้นทั้งสองรายคงดำเนินการดังกล่าวไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ
3.อย่างไรก็ดี หาก TTA พบว่ามีการกระทำใดๆ ที่พยายามจะสร้างความสับสนแก่นักลงทุน หรือทำให้ภาพลักษณ์ของ TTA เสียหาย หรือทำให้ธุรกิจของบริษัทต้องหยุดชะงัก TTA ก็จำเป็นจะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง 4. ดังนั้นขอเรียนย้ำว่า จนถึงบัดนี้ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล ก็ยังมิได้ตั้งข้อกล่าวหาใดๆต่อผู้บริหารของ TTA จากเหตุข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ TTA ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ DSI อย่างเต็มที่ในการสอบสวนกรณีนี้ และก็เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ได้
5. จากรายงานข่าวที่ระบุว่าตัวแทนของผู้ถือหุ้นรายย่อยกลุ่มนี้ ได้ยื่นคำร้องต่อก.ล.ต.ให้ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต และคุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ พ้นจากสถานะผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนนั้น กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นผลจากความเข้าใจข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามประกาศของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้บริหาร และผู้จัดการของบริษัทจดทะเบียน ระบุไว้ว่าผู้บริหารจะถูกตัดสิทธิ์ก็ต่อเมื่อมีการตั้งข้อกล่าวหาโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ดังนั้น การถูกกล่าวหาจากบุคคลอื่นใด จึงไม่มีผลทำให้ ผู้บริหารต้องพ้นจากสถานะดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้บริหารของ TTA ได้มอบหมายให้ทนายความไปพบเจ้าหน้าที่ DSI แล้ว เพื่อประสานงาน และจัดเตรียมเอกสาร และข้อมูลต่างๆ แก่ DSI และเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ทาง DSI จะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทางฝ่าย TTA ในเรื่องดังกล่าวนี้ ทำให้ยังคงมั่นใจว่า จากข้อมูลทั้งหมดที่บริษัทมีอยู่ จะสามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้อย่างแน่นอน
**จ่ายปันผลปลอบขวัญผู้หุ้น
ขณะเดียวกัน วานนี้(22ธ.ค.) ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัด หรือ PP เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ขยายงานและเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 54 จำนวน 50 สตางค์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าเงินปันผลรวมที่จะจ่ายคือ 354 ล้านบาท มีจำนวนสูงกว่าผลกำไรสุทธิในปี 54 ที่ 139 ล้านบาทถึง 2.5 เท่า ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.68% เมื่อคิดจากราคาหุ้นเฉลี่ยตลอดปี 54 โดยเงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 55 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 55
นอกจากนี้ บอร์ดฯ ยังอนุมัติการเสนอชื่อกรรมการ 3 ท่านจาก 4 ท่านที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการในเดือนมกราคม 55 ให้กลับมาเข้ารับตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง คือนายอัศวิน คงสิริ ศาสตรจารย์พิเศษอธึก อัศวานันท์ และ ดร. วรภัทร โตธนะเกษม และอนุมัติให้แต่งตั้งนายนริศ เชยกลิ่น เข้ามาเป็นกรรมการแทน ดร.ศิริ การเจริญดี ที่จะครบวาระแต่ไม่ประสงค์ดำรงตำแหน่งต่อ นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มอีกหนึ่งท่าน คือ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ดังนั้น จำนวนกรรมการของบริษัทฯ ทั้งหมดจะเพิ่มจาก 10 เป็น 11 ท่าน
