ASTV ผู้จัดการรายวัน - ก.ล.ต.ฟุ้งนักลงทุนเชื่อมั่นฝีมือรัฐฟื้นฟูหลังน้ำท่วม หลังวอลุ่มซื้อขายยังอยู่ในระดับ 30,000 ล้านบาท/วัน คาดมหันตภัยน้ำมีผลต่อเศรษฐกิจไทยและบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส4 - ไตรมาส1ปีหน้า กดดันGDP ประเทศเหลือโต2.5% เร่งจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐษนหวังช่วยผ่อนแรงรัฐบาลปูแดง ล่าสุดมีบลจ. 2-3 รายเสนอตัวรับบริหาร
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้มองว่า นักลงทุนยังมีความมั่นใจต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยรวมถึงแนวทางการฟื้นฟูประเทศของรัฐบาล เห็นจากมูลค่าการซื้อขายหุ้นในปัจจุบันยังอยู่ระดับปกติ เฉลี่ยที่ 30,000 ล้านบาท/วัน และมั่นใจแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่จะสามารถฟื้นฟูได้เร็วหลังน้ำท่วมคลี่คลาย ทั้งนักลงทุนรายย่อย สถาบัน และต่างประเทศ ประกอบกับที่รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ที่เป็นชุดฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่น และชุดแก้ปัญหาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากขึ้น
ส่วนประเมินผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมนั้น คาดว่าน่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย และบริษัทจดทะเบียน 2 ไตรมาส คือในไตรมาส 4/54 และ ไตรมาส 1/55 และหลังจากนั้นจะเริ่มการฟื้นตัวได้ โดยประเมินว่าจากน้ำท่วมจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวที่ 2.5% อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล บจ.ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 30% ของบจ.ทั้งหมด โดยมี บจ.ที่ถูกผลกระทบรุนแรง 3-4% ขณะที่แนวทางการช่วยเหลือ บจ. นั้น ก.ล.ต.ได้มีการผ่อนผันเกณฑ์กำกับดูแล เช่น การขยายเวลาการส่งงบการเงิน
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infarstructure Fund) ซึ่งจะช่วยลดภาระเงินงบประมาณของรัฐบาล และลดภาระหนี้สาธารณะ และอยู่รระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมี บลจ.2-3 ราย ที่เสนอขอจัดตั้งกองทุนแล้ว
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้มองว่า นักลงทุนยังมีความมั่นใจต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยรวมถึงแนวทางการฟื้นฟูประเทศของรัฐบาล เห็นจากมูลค่าการซื้อขายหุ้นในปัจจุบันยังอยู่ระดับปกติ เฉลี่ยที่ 30,000 ล้านบาท/วัน และมั่นใจแนวทางการทำงานของรัฐบาลที่จะสามารถฟื้นฟูได้เร็วหลังน้ำท่วมคลี่คลาย ทั้งนักลงทุนรายย่อย สถาบัน และต่างประเทศ ประกอบกับที่รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ที่เป็นชุดฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่น และชุดแก้ปัญหาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้มากขึ้น
ส่วนประเมินผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมนั้น คาดว่าน่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย และบริษัทจดทะเบียน 2 ไตรมาส คือในไตรมาส 4/54 และ ไตรมาส 1/55 และหลังจากนั้นจะเริ่มการฟื้นตัวได้ โดยประเมินว่าจากน้ำท่วมจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวที่ 2.5% อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล บจ.ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 30% ของบจ.ทั้งหมด โดยมี บจ.ที่ถูกผลกระทบรุนแรง 3-4% ขณะที่แนวทางการช่วยเหลือ บจ. นั้น ก.ล.ต.ได้มีการผ่อนผันเกณฑ์กำกับดูแล เช่น การขยายเวลาการส่งงบการเงิน
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infarstructure Fund) ซึ่งจะช่วยลดภาระเงินงบประมาณของรัฐบาล และลดภาระหนี้สาธารณะ และอยู่รระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอี โดยมี บลจ.2-3 ราย ที่เสนอขอจัดตั้งกองทุนแล้ว