เวิลด์แก๊สฯ เมินซื้อหุ้นเพิ่มทุน " ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น " อ้างเม็ดเงิน 1,700 ล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูกิจการ เพราะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเดือนละเกือบ 500 ล้านบาท แถมการแข่งขันสูงและภาพลักษณ์ติดลบมานาน เชื่อฟื้นตัวยาก ยันคดีพิพาทไม่ได้เป็นเหตุ อ้างไม่มั่นใจต่อฐานะการเงินและภาพลักษณ์บริษัท
นายทนงศักดิ์ ศรีทองคำ กรรมการ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลียน จำกัด (มหาชน) หรือ AMC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท เวิลด์แก๊สฯ ได้พิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ของคณะทำงานและมีมติไม่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ เพราะมองว่าวงเงิน 1,700 ล้านบาทที่จะต้องเพิ่มทุนเข้าไปไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูกิจการ
โดยมองว่า PICNI ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนอีกอย่างน้อย 400-500 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อนำไปใช้ซื้อแก๊สในแต่ละเดือน นอกจากนี้ยอดขายที่หดตัวลงจนปัจจุบันเหลือส่วนแบ่งการตลาดเพียง 4% ขณะที่การแข่งขันธุรกิจแก๊สมีสูง เนื่องจากมีผู้ค้ารายเล็กเข้ามาตลาดเพิ่มขึ้นหลายราย อีกทั้งภาพลักษณ์ของ PICNI จากผลการบริหารงานตั้งแต่อดีต ทำให้การฟื้นฟูภาพลักษณ์ใหม่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก และบริษัทยังไม่มีข้อมูลอย่างเพียงพอ เพราะไม่มีการนำส่งงบการเงินมาตั้งแต่ปี 53 จำนวนทรัพย์สินที่มีอยู่มีจริงหรือไม่ โดยเฉพาะถังแก๊สที่บันทึกเป็นทรัพย์สินทางบัญชีมีมูลค่าสูง แต่ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามีอยู่จริง
นายทนงศักดิ์ชี้แจงต่อว่า ขณะนี้บริษัท เวิลด์แก๊ส ไม่ได้ถูกเปลี่ยนมือเป็นของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตามที่มีกระแสข่าว โดยขณะนี้คดีความของ AMC ที่ Mr.Donald Ian Mcbain อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นของ AMC ที่ได้ร้องให้เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/52 และ 2/52 ของบริษัท ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ส.ค.54 ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติดังกล่าว ซึ่งผลของคดีมีเพียงการเพิกถอนการจดทะเบียนตามมติที่ประชุมดังกล่าวไม่ได้ทำให้สถานภาพของคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นของ AMC เปลี่ยนไป เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุดและคณะกรรมการจะใช้สิทธิอุทธรณ์และฎีกาต่อไป ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี การเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีคดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่อีกระหว่างบริษัท กับนางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยา พล.ต.ท.ชัจจ์ ในการเรียกร้องสิทธิการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลในขั้นการสืบพยานฝ่ายจำเลย
" ศาลพิจารณาว่าผู้ถือหุ้นที่ประชุมไม่ใช่ผู้ถือหุ้นที่แท้จริง เพราะพิจารณาจากหลักฐานการโอนหุ้นให้บุคคลอื่น คือนายธรรมนูญ ( ผู้ถือหุ้นเดิม AMC ) โอนให้คนอื่นจนมาถึงนางวิมลรัตน์ แต่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนหุ้นจะตกเป็นของใครก็ยังเป็นคดีกันอยู่ ซึ่งเดิมเราไม่รู้ว่าคุณธรรมนูญเอาหุ้นไปทำอะไรบ้าง หากไม่มีการจดแจ้งทะเบียนผู้ถือหุ้นกับกระทรวงพาณิชย์ เพราะก็มีผู้อ้างเป็นเจ้าของหุ้น AMC หลายรายและศาลมีมติให้เพิกถอนคำร้องไปแล้ว ซึ่งหุ้น AMC เป็นของ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง" นายทนงศักดิ์ ล่าว
ส่วนคดีข้อพิพาทระหว่าง เวิลด์แก๊ส กับ PICNI ที่ร้องต่อศาลล้มละลายกลางให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาประนอมหนี้ และเพิกถอนการโอนหุ้น และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องเมื่อ 21 เม.ย.54 ทำให้หุ้นเวิลด์แก๊สเป็นของ AMC อย่างถูกกฎหมาย และ PICNI ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งแล้ว คดีดังกล่าวไม่ได้มีผลทำให้คณะกรรมการเวิลด์แก๊สตัดสินใจไม่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PICNI แต่เพราะไม่มั่นใจในฐานะการเงินและภาพลักษณ์ของบริษัทมากกว่า และมองว่าการลงทุนนี้เป็นการลงทุนสูงแต่ยังไม่มีความแน่นอน
นายทนงศักดิ์ ศรีทองคำ กรรมการ บริษัท แอสเซ็ท มิลเลียน จำกัด (มหาชน) หรือ AMC ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท เวิลด์แก๊สฯ ได้พิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ของคณะทำงานและมีมติไม่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI ตามแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ เพราะมองว่าวงเงิน 1,700 ล้านบาทที่จะต้องเพิ่มทุนเข้าไปไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูกิจการ
โดยมองว่า PICNI ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนอีกอย่างน้อย 400-500 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อนำไปใช้ซื้อแก๊สในแต่ละเดือน นอกจากนี้ยอดขายที่หดตัวลงจนปัจจุบันเหลือส่วนแบ่งการตลาดเพียง 4% ขณะที่การแข่งขันธุรกิจแก๊สมีสูง เนื่องจากมีผู้ค้ารายเล็กเข้ามาตลาดเพิ่มขึ้นหลายราย อีกทั้งภาพลักษณ์ของ PICNI จากผลการบริหารงานตั้งแต่อดีต ทำให้การฟื้นฟูภาพลักษณ์ใหม่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก และบริษัทยังไม่มีข้อมูลอย่างเพียงพอ เพราะไม่มีการนำส่งงบการเงินมาตั้งแต่ปี 53 จำนวนทรัพย์สินที่มีอยู่มีจริงหรือไม่ โดยเฉพาะถังแก๊สที่บันทึกเป็นทรัพย์สินทางบัญชีมีมูลค่าสูง แต่ยังไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามีอยู่จริง
นายทนงศักดิ์ชี้แจงต่อว่า ขณะนี้บริษัท เวิลด์แก๊ส ไม่ได้ถูกเปลี่ยนมือเป็นของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตามที่มีกระแสข่าว โดยขณะนี้คดีความของ AMC ที่ Mr.Donald Ian Mcbain อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นของ AMC ที่ได้ร้องให้เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/52 และ 2/52 ของบริษัท ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ส.ค.54 ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติดังกล่าว ซึ่งผลของคดีมีเพียงการเพิกถอนการจดทะเบียนตามมติที่ประชุมดังกล่าวไม่ได้ทำให้สถานภาพของคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นของ AMC เปลี่ยนไป เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุดและคณะกรรมการจะใช้สิทธิอุทธรณ์และฎีกาต่อไป ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี การเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้
นอกจากนี้ บริษัทยังมีคดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่อีกระหว่างบริษัท กับนางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยา พล.ต.ท.ชัจจ์ ในการเรียกร้องสิทธิการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลในขั้นการสืบพยานฝ่ายจำเลย
" ศาลพิจารณาว่าผู้ถือหุ้นที่ประชุมไม่ใช่ผู้ถือหุ้นที่แท้จริง เพราะพิจารณาจากหลักฐานการโอนหุ้นให้บุคคลอื่น คือนายธรรมนูญ ( ผู้ถือหุ้นเดิม AMC ) โอนให้คนอื่นจนมาถึงนางวิมลรัตน์ แต่ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนหุ้นจะตกเป็นของใครก็ยังเป็นคดีกันอยู่ ซึ่งเดิมเราไม่รู้ว่าคุณธรรมนูญเอาหุ้นไปทำอะไรบ้าง หากไม่มีการจดแจ้งทะเบียนผู้ถือหุ้นกับกระทรวงพาณิชย์ เพราะก็มีผู้อ้างเป็นเจ้าของหุ้น AMC หลายรายและศาลมีมติให้เพิกถอนคำร้องไปแล้ว ซึ่งหุ้น AMC เป็นของ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง" นายทนงศักดิ์ ล่าว
ส่วนคดีข้อพิพาทระหว่าง เวิลด์แก๊ส กับ PICNI ที่ร้องต่อศาลล้มละลายกลางให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาประนอมหนี้ และเพิกถอนการโอนหุ้น และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องเมื่อ 21 เม.ย.54 ทำให้หุ้นเวิลด์แก๊สเป็นของ AMC อย่างถูกกฎหมาย และ PICNI ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งแล้ว คดีดังกล่าวไม่ได้มีผลทำให้คณะกรรมการเวิลด์แก๊สตัดสินใจไม่เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PICNI แต่เพราะไม่มั่นใจในฐานะการเงินและภาพลักษณ์ของบริษัทมากกว่า และมองว่าการลงทุนนี้เป็นการลงทุนสูงแต่ยังไม่มีความแน่นอน