สมาคมโบรกเกอร์ เตรียมส่งหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเสนอแนวทางการเปิดเสรีค่าคอมมิชชันเต็มรูปแบบ-เปิดเสรีใบไลเซนส์ ภายในสิ้นเดือนนี้ เหตุข้อกังวลอาจเกิดการแข่งขันที่ไม่อยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกัน ทำให้ผู้ประกอบการรายเดิมเสียเปรียบ-การคงคุณภาพการให้บริการแก่นักลงทุน
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า สมาคมโบรกเกอร์จะมีการทำหนังสือแสดงความคิดเห็นของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ในเรื่องแนวทางการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชัน) และการเปิดเสรีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ใบไลเซนส์) ต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พิจารณาภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูล เพื่อให้ทางการได้รับรู้ถึงข้อกังวลของผู้ประกอบการหลักทรัพย์ เพื่อให้ทางการหาแนวทางที่จะลดข้อกังวลใจดังกล่าว และหากเดินหน้าเปิดเสรีฯควรทำให้อุตสาหกรรมหลักทรัพย์เดินหน้า และยังคงคุณภาพในการให้บริการต่อไปตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย
ทั้งนี้ แนวทางที่จะมีการจัดทำนั้นจะมีหลายทางเลือก เช่น ขอเลื่อนการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นออกไป โดยยังคงใช้ค่าคอมมิชชันแบบขั้นบันไดต่อไป หรือไม่หากจะมีการเปิดเสรีฯก็ควรให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหมือนกับผู้ประกอบการรายเดิม เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เพราะการให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามา เช่น บริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยที่ไม่ต้องมีการตั้งสำนักงานในประเทศไทย ไม่ต้องมีการทำบทวิเคราะห์ ทำให้มีต้นทุนทำธุรกิจที่ต่ำ ทำให้สามารถคิดค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำๆได้ ก็จะทำให้โบรกเกอร์ต่างประเทศในไทยมีการปิดสำนักงานไป ฯลฯ
“ในปีหน้าที่จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นอย่างเต็มรูปแบบและเสรีใบไลเซ่นนั้นทางสมาคมโบรกเกอร์ฯจะมีการทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์จากมีข้อกังวลใจเกี่ยวกับการเปิดเสรีฯดังกล่าว เพื่อให้ทางการทราบถึงข้อกังวลใจของโบรกเกอร์ ซึ่งเราไม่กลัวในเรื่องการแข่งขัน แต่การแข่งขันต้องอยู่ในกฎกติกาเดียวกัน ส่วนตัวมองว่าผู้ประกอบการขณะนี้ก็มีจำนวนมากพอสมควร และหากดูกำไรแล้วก้ไม่ได้สูงเกินไป และผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้นไม่ถึง 20% ดังนั้นแล้วอะไรที่จะทำให้คนใหม่เข้ามาซื้อขายในไทย” นางภัทธีรา กล่าวว่า
นอกจากนี้ สมาคมโบรกเกอร์มีแนวทางที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ เช่น การเพิ่มบุคลากรในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ให้มีจำนวนมากขึ้น แนวทางการพัฒนาคุณภาพบุคลากร การส่งเสริมให้มีนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้มีการคิดค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับรูปแบบการให้บริการ และการขยายฐานลูกค้า การพัฒนาในแนวทางของระบบไอทีสารสนเทศ รองรับการเชื่อมโยงตลาดทุนในอาเซียน การพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายโดยเน้นการสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนที่มั่นคง
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า สมาคมโบรกเกอร์จะมีการทำหนังสือแสดงความคิดเห็นของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ในเรื่องแนวทางการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชัน) และการเปิดเสรีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ใบไลเซนส์) ต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) พิจารณาภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูล เพื่อให้ทางการได้รับรู้ถึงข้อกังวลของผู้ประกอบการหลักทรัพย์ เพื่อให้ทางการหาแนวทางที่จะลดข้อกังวลใจดังกล่าว และหากเดินหน้าเปิดเสรีฯควรทำให้อุตสาหกรรมหลักทรัพย์เดินหน้า และยังคงคุณภาพในการให้บริการต่อไปตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย
ทั้งนี้ แนวทางที่จะมีการจัดทำนั้นจะมีหลายทางเลือก เช่น ขอเลื่อนการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นออกไป โดยยังคงใช้ค่าคอมมิชชันแบบขั้นบันไดต่อไป หรือไม่หากจะมีการเปิดเสรีฯก็ควรให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเข้ามาต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหมือนกับผู้ประกอบการรายเดิม เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม เพราะการให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามา เช่น บริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยที่ไม่ต้องมีการตั้งสำนักงานในประเทศไทย ไม่ต้องมีการทำบทวิเคราะห์ ทำให้มีต้นทุนทำธุรกิจที่ต่ำ ทำให้สามารถคิดค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำๆได้ ก็จะทำให้โบรกเกอร์ต่างประเทศในไทยมีการปิดสำนักงานไป ฯลฯ
“ในปีหน้าที่จะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นอย่างเต็มรูปแบบและเสรีใบไลเซ่นนั้นทางสมาคมโบรกเกอร์ฯจะมีการทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์จากมีข้อกังวลใจเกี่ยวกับการเปิดเสรีฯดังกล่าว เพื่อให้ทางการทราบถึงข้อกังวลใจของโบรกเกอร์ ซึ่งเราไม่กลัวในเรื่องการแข่งขัน แต่การแข่งขันต้องอยู่ในกฎกติกาเดียวกัน ส่วนตัวมองว่าผู้ประกอบการขณะนี้ก็มีจำนวนมากพอสมควร และหากดูกำไรแล้วก้ไม่ได้สูงเกินไป และผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้นไม่ถึง 20% ดังนั้นแล้วอะไรที่จะทำให้คนใหม่เข้ามาซื้อขายในไทย” นางภัทธีรา กล่าวว่า
นอกจากนี้ สมาคมโบรกเกอร์มีแนวทางที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ เช่น การเพิ่มบุคลากรในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ให้มีจำนวนมากขึ้น แนวทางการพัฒนาคุณภาพบุคลากร การส่งเสริมให้มีนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้มีการคิดค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับรูปแบบการให้บริการ และการขยายฐานลูกค้า การพัฒนาในแนวทางของระบบไอทีสารสนเทศ รองรับการเชื่อมโยงตลาดทุนในอาเซียน การพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายโดยเน้นการสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนที่มั่นคง