xs
xsm
sm
md
lg

“จรัมพร” แจงต้นเหตุตลาดหุ้นป่วน สภาฯ “ตลาดทุน” ชงแผนรับมือวิกฤตรอบใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จรัมพร  โชติกเสถียร
“จรัมพร” แจงหุ้นไทยร่วงหนัก เกิดจากแรงขายหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป ยันพื้นฐาน บจ.ยังแข็งแกร่ง และไม่มีปัญหาฟอร์ซเซลล์ สภาธุรกิจตลาดทุนฯ ชี้ ตลาดหุ้นทั่วโลก กำลังเผชิญวิกฤตในรอบใหม่ ชงตั้งกองทุนพยุงหุ้น เลียนแบบ “วายุภักษ์” เชื่อความแข็งแกร่งหุ้นไทยรอบนี้ ดีกว่าช่วงซับไพรม์ พร้อมเสนอ 7 แนวทางให้ “รบ.ปู” กู้วิกฤต จี้ปรับนโยบายเชิงรุก-ตั้งรับ เชื่อหุ้นไทยร่วงหนักวันนี้ เกิดจากความตื่นตระหนก ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐาน

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยืนยันว่า การที่ตลาดหุ้นที่ไทยปรับตัวลงไปกว่า 8-9% ในชั่วโมงการซื้อขาย เกิดจากแรงขายหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป ทั้งพลังงานและน้ำมัน ที่มีมาร์เก็ตแคปรวมกันอยู่ที่ 27% ปรับตัวลงไป 9% กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมีมาร์เก็ตแคป 18% ปรับลงไป 7% กลุ่มก่อสร้างปรับลงไป 7% และกลุ่มสื่อสารปรับตัวลงไป 6%

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แล้ว พบว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และยังไม่มีปัญหาในเรื่องของการบังคับขายหุ้น (forced sell) เพราะถ้าดูจากมาร์จิ้นโลนทั้งระบบในปัจจุบันอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในระดับปกติ ซึ่งทางตลท.ก็คุมเข็มในเรื่องมาร์จิ้นโลนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ขณะนี้การบังคับขายหุ้น (forced sell) เฉลี่ยอยู่ที่ 0.5-1.0% เท่านั้น ซึ่งมองว่ายังไม่มีนัยสำคัญ โดยหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเกิดจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ตื่นตระหนกมากกว่า

“หุ้น 4 กลุ่มหลักปรับตัวลง ทำให้ตลาดโดยรวมปรับลงแรงผิดปกติ แต่ถ้ามองพื้นฐานบจ.ยังไม่เปลี่ยน ยังมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในหุ้นไทยอยู่ ว่าได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ที่ดี สำหรับข้อเสนอในการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ ถือว่าเป็นมาตรการในระยะกลาง ซึ่งอยู่ในพื้นฐานของสภาตลาดทุนไทยอยู่แล้ว”

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เผชิญกับความเสี่ยงขาลงครั้งใหญ่ และภาวะตลาดทุนโลกที่เผันผวนและแรงเทขาย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย จึงเสนอนโยบาย 7 ข้อ ต่อรัฐบาลไทย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยและตลาดทุนไทย สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ หลังจากที่เศรษฐกิจโลกมีปัญหา ส่วนข้อเสนอมีดังนี้

1.เสนอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายต่างๆ ที่ได้ประกาศไปช่วงก่อนการเลือกตั้งและให้มีการปรับปรุงและเรียงลำดับความสำคัญใหม่ เพื่อให้รองรับการผลกระทบจากการชะลอของเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบมาถึงประเทศไทย โดยรัฐบาลอาจจำเป็นต้องเก็บงบประมาณบางส่วน เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเกิดวิกฤตรอบ 2

2.รัฐบาลอาจต้องทบทวนนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต เช่น นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ เพราะการขึ้นค่าแรงในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัวอาจทำให้ผู้ประกอบการเลือกลดต้นทุนการผลิตด้วยการปลดคนงาน จึงเสนอให้การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

3.เสนอให้รัฐบาลเร่งรัดการดำเนินนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากเอกชนด้วย

4.สภาฯ สนับสนุนนโยบายลดภาษีนิติบุคคล จาก 30% เป็น 20% จึงขอเสนอให้รัฐบาลประกาศยืนยันนโยบายนี้อีกครั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจ

5.เนื่องจากมีแรงเทขายในตลาดหุ้นอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าหุ้นส่วนใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ปรับลดลงต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานมาก จึงเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนในลักษณะเดียวกันกับกองทุนวายุภักษ์ เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดี

6.ขอเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทบทวนนโยบายการเงิน และหากสามารถชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน ก็จะช่วยลดความผันผวนในตลาดทุนได้

7.เสนอให้รัฐบาลรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้การขาดดุลทางการคลัง และหนี้สาธารณะเพิ่มมากหรือเร็วจนเกินไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะดำเนินนโยบายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและตรวจสอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น