"จรัมพร" แถลงสร้างความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย ลั่นยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการเสริมพิเศษ เพื่อเข้าไปดูแล แต่จะเฝ้าระวัง "มาร์จิ้นโลน" คาดหากลงแรงจะมีฟอร์ซเซลไม่มาก เพราะมีบัญชีเพียง 3 หมื่นล้าน น้อยกว่าปี 40 ที่มีสูงถึง 1 แสนล้าน ยอมรับเป็นห่วงเงินทุนไหลออก คาดจบวิกฤตรอบนี้ ต่างชาติขนเงินกลับ 1.5 แสนล้าน น้อยกว่าปี 51 ขณะที่ TFEX หยุดซื้อขาย Silver Futures ครึ่งชม. หลังราคาฯ ร่วง 10% หุ้นภาคบ่ายอาการดีขึ้น แต่ยังอยู่ในแดนลบ และปิดตลาดปรับตัวลดลง 32.43 จุด
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในการแถลงข่าวสร้างความเชื่อมั่นกรณีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงถึง 5% เมื่อเช้าวันนี้ โดยระบุว่า การปรับตัวลงแรงของดัชนีเกิดจากปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่จะเฝ้าระวังเรื่องการใช้สินเชื่อเพื่อซื้อหุ้น (มาร์จิ้นโลน) ซึ่งในปัจจุบันในระบบมีอยู่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับระดับที่น่ากังวลตอนปี 2540 ที่มาร์จินโลนอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท
ส่วนการบังคับขายหุ้น (ฟอร์ซเซล) ในขณะนี้ ยืนยันว่ายังไม่น่าเป็นห่วง เพราะนักลงทุนที่ลงทุนตลาดหุ้นผ่านระบบมาร์จิน มีสัดส่วนไม่มาก อย่างไรก็ตาม ตลท. เตรียมมาตรการปกติที่วางหลักเกณฑ์ไว้คือเซอร์กิต เบรกเกอร์ หากดัชนีลงไปลึกถึง 10% เพื่อพักการซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงหนึ่ง ก่อนเปิดให้มีการซื้อขายตามปกติ
"ยังไม่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการพิเศษเพื่อดูแลตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ แม้ว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมาจะร่วงลงไปลึกกว่า 5% ในระหว่างเทรด เนื่องจากเป็นผลจากปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ปัจจุบันมีเม็ดเงินลงทุนผ่านมาร์จิ้นเพียง 3 หมื่นล้านบาท เชื่อว่าคงถูกฟอร์ซเซลไม่มาก และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลดาหุ้นไทย"
สำหรับสาเหตุของการปรับลงของตลาดหุ้นทั่วโลก นายจรัมพร ระบุว่า เกิดจากการโยกเงินออกจากตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงไปหลบภัยในพันธบัตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีเงินไหลออกมากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม มองว่ายังมีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเพื่อนำเงินกลับไปสำรองไว้ชดเชยผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก แต่ในสถานการณ์ดังกล่าว มองว่าเป็นโอกาสดีของการเข้าลงทุนของนักลงทุนในประเทศ โดยในส่วนของแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ 3 หมื่นล้านบาทนั้น นายจรัมพร กล่าวว่า ยังน้อยกว่าปี 2551 ที่ต่างชาติขายถึง 1.6 แสนล้านบาท
"คิดว่าวิกฤตตลาดหุ้นในรอบนี้ น่าจะมีเงินไหลออกใกล้เคียงกับปี 2551 ที่เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยจำนวนกว่า 1.5 แสนล้านบาท"
นายจรัมพร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าวตนเองได้มีการรายงานข้อมูลให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับทราบแล้ว และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้คงยังไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ เพื่อหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว
ด้านตลาดอนุพันธ์ ประกาศหยุดทำการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Silver Futures เป็นการชั่วคราว ในวันที่ 23 กันยายน 2554 ตั้งแต่เวลา 15.05 น. ตามที่ราคาซื้อขายของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน (Silver Futures) ในวันที่ 23 กันยายน 2554 เวลา 15.05 เปลี่ยนแปลงลดลงจากราคาที่ใช้ชำระราคาและส่งมอบล่าสุด (Latest Settlement Price) คิดเป็น 10%
ทั้งนี้ ตลาดอนุพันธ์ จะเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในเวลา 15.35 น. และกำหนดให้เริ่มช่วง Pre-open ตั้งแต่เวลา 15.25 น. ถึง 15:35 น. (10 นาทีก่อนเปิดการซื้อขาย) และจะขยาย Daily Price Limit จาก +/-10% เป็นไม่เกิน +/-20% ของราคาที่ใช้ชำระราคาและส่งมอบล่าสุด (Latest Settlement Price)
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแต่ยังคงแกว่งตัวอยู่ในแดนลบ โดยเมื่อเวลา 15.27 น. ดัชนีอยู่ที่ระดับ 957.78 จุด ลดลง 32.81 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -3.31% มูลค่าการซื้อขาย 38,044.01 ล้านบาท
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 958.16 จุด ลดลง 32.43 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -3.27% มูลค่าการซื้อขาย 50,108.85 ล้านบาท