ทาทาสตีลตั้งเป้ารายได้ปีนี้แค่2.6 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงปีก่อน เหตุปริมาณการขายลดลงอยู่ที่ 1.2 ล้านตัน แต่ราคาขายเฉลี่ยดีขึ้นเล็กน้อย ยอมรับทบทวนแผนการขยายกำลังการผลิตเหล็กเส้นเป็น 3 ล้านตันในปี 58 เหตุกังวลวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป
นายลาภทวี เสนะวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)(TSTH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปีนี้(1เม.ย.54-31 มี.ค.55)บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.68 หมื่นล้านบาท แม้ว่าปริมาณการขายเหล็กทรงยาวในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านตัน/ปีจะต่ำกว่าปีก่อนที่มีปริมาณการขายเหล็กทรงยาว 1.4 ล้านตัน แต่ราคาเหล็กเส้นเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 22บาท/กิโลกรัม ดีกว่าปีก่อนที่มี ราคาขายเฉลี่ย 21 บาท/กิโลกรัม
โดยแนวโน้มรายได้ไตรมาส 2 งวด 54/55 (ก.ค.-ก.ย.) อาจจะลดลง เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลงจากช่วงไตรมาส 1 งวด 54/55 (เม.ย. - มิ.ย.) เล็กน้อย โดยจะพยายามรักษาการขายเหล็กอยู่ที่ระดับ 1 แสนตัน/เดือน
ทั้งนี้ตลาดเหล็กเส้นในประเทศมีการแข่งขันสูง เนื่องจากกำลังการผลิตอยู่ที่ 8 ล้านตัน/ปี เกินความต้องการอยู่ถึง 3 ล้านตัน โดยมีเหล็กคุณภาพต่ำหรือเหล็กเบาอยู่ในตลาดคิดเป็น30% ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายในการนำเหล็กเบามาใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารสูงต่างๆ จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเลือกใช้เหล็กที่มีคุณภาพได้มาตรฐานมอก.
นายลาภทวี กล่าวต่อไปว่า อุตสาหกรรมการก่อสร้างไทยในปีหน้ามีแนวโน้มเติบโต 5% หลังจากรัฐบาลใหม่เร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ภาคการก่อสร้างขยายตัวตาม เช่นคอนโดมิเนียม สำนักงานและโรงแรมใหม่ ดันให้ปริมาณการใช้เหล็กเส้นในประเทศเติบโต 8-9%
" การปรับราคาขายเหล็กเส้นในอนาคต ต้องขึ้นอยู่กับต้นทุนวัตถุดิบเป็นหลัก หากต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้นก็มีความจำเป็นต้องขึ้นราคาขายตาม แต่ปัจจุบันราคาเหล็กเส้นในประเทศยังขายในราคาต่ำกว่าเพดานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ส่วนนโยบายรัฐที่จะผลักดันให้ปรับขึ้นเงินเดือนระดับปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท/เดือนนั้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรมเหล็กเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่70%เป็นค่าวัตถุดิบ " นายลาภทวี กล่าว
นายลาภทวี กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้บริษัทเตรียมทบทวนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กทรงยาวจาก 1.7 ล้านตันเป็น 3 ล้านตัน / ปี ภายในงบประมาณปี 58 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับหนี้สินอาจฉุดความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลก ซึ่งงบการลงทุนในการขยายกำลังการผลิตเหล็กทรงยาวเป็น 2 ล้านตัน/ปีไม่มากแต่ถ้าขยับเพิ่มเป็น 3 ล้านตันคงต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบเพราะกำลังการผลิตในประเทศยังล้นตลาดอยู่
วานนื้ (17ส.ค.) บริษัทได้เปิดตัว "ทาทา ทิสคอน" เป็นแบรนด์เหล็กทรงยาวคุณภาพสูง ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีของทาทาสตีล กรุ๊ปซึ่งมีประสบการณ์ทำธุรกิจเหล็กครบวงจรมานานกว่า 100ปีและเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 7ของโลก โดยมุ่งเน้นการผลิตเหล็กเส้นคุณภาพ ทุกขนาดรวมทั้งยังเสนอเหล็กเกรดพิเศษที่รับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว และป้อนกันการกัดเซาะจากน้ำทะเล เป็นต้น เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในประเทศ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำตลาดเหล็กทรงยาวในภูมิภาคอาเซียนในปี 58
นายลาภทวี เสนะวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)(TSTH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปีนี้(1เม.ย.54-31 มี.ค.55)บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.68 หมื่นล้านบาท แม้ว่าปริมาณการขายเหล็กทรงยาวในปีนี้ประมาณ 1.2 ล้านตัน/ปีจะต่ำกว่าปีก่อนที่มีปริมาณการขายเหล็กทรงยาว 1.4 ล้านตัน แต่ราคาเหล็กเส้นเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 22บาท/กิโลกรัม ดีกว่าปีก่อนที่มี ราคาขายเฉลี่ย 21 บาท/กิโลกรัม
โดยแนวโน้มรายได้ไตรมาส 2 งวด 54/55 (ก.ค.-ก.ย.) อาจจะลดลง เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลงจากช่วงไตรมาส 1 งวด 54/55 (เม.ย. - มิ.ย.) เล็กน้อย โดยจะพยายามรักษาการขายเหล็กอยู่ที่ระดับ 1 แสนตัน/เดือน
ทั้งนี้ตลาดเหล็กเส้นในประเทศมีการแข่งขันสูง เนื่องจากกำลังการผลิตอยู่ที่ 8 ล้านตัน/ปี เกินความต้องการอยู่ถึง 3 ล้านตัน โดยมีเหล็กคุณภาพต่ำหรือเหล็กเบาอยู่ในตลาดคิดเป็น30% ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายในการนำเหล็กเบามาใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารสูงต่างๆ จำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเลือกใช้เหล็กที่มีคุณภาพได้มาตรฐานมอก.
นายลาภทวี กล่าวต่อไปว่า อุตสาหกรรมการก่อสร้างไทยในปีหน้ามีแนวโน้มเติบโต 5% หลังจากรัฐบาลใหม่เร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้ภาคการก่อสร้างขยายตัวตาม เช่นคอนโดมิเนียม สำนักงานและโรงแรมใหม่ ดันให้ปริมาณการใช้เหล็กเส้นในประเทศเติบโต 8-9%
" การปรับราคาขายเหล็กเส้นในอนาคต ต้องขึ้นอยู่กับต้นทุนวัตถุดิบเป็นหลัก หากต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้นก็มีความจำเป็นต้องขึ้นราคาขายตาม แต่ปัจจุบันราคาเหล็กเส้นในประเทศยังขายในราคาต่ำกว่าเพดานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ส่วนนโยบายรัฐที่จะผลักดันให้ปรับขึ้นเงินเดือนระดับปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท/เดือนนั้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอุตสาหกรรมเหล็กเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่70%เป็นค่าวัตถุดิบ " นายลาภทวี กล่าว
นายลาภทวี กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้บริษัทเตรียมทบทวนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กทรงยาวจาก 1.7 ล้านตันเป็น 3 ล้านตัน / ปี ภายในงบประมาณปี 58 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับหนี้สินอาจฉุดความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลก ซึ่งงบการลงทุนในการขยายกำลังการผลิตเหล็กทรงยาวเป็น 2 ล้านตัน/ปีไม่มากแต่ถ้าขยับเพิ่มเป็น 3 ล้านตันคงต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบเพราะกำลังการผลิตในประเทศยังล้นตลาดอยู่
วานนื้ (17ส.ค.) บริษัทได้เปิดตัว "ทาทา ทิสคอน" เป็นแบรนด์เหล็กทรงยาวคุณภาพสูง ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีของทาทาสตีล กรุ๊ปซึ่งมีประสบการณ์ทำธุรกิจเหล็กครบวงจรมานานกว่า 100ปีและเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 7ของโลก โดยมุ่งเน้นการผลิตเหล็กเส้นคุณภาพ ทุกขนาดรวมทั้งยังเสนอเหล็กเกรดพิเศษที่รับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว และป้อนกันการกัดเซาะจากน้ำทะเล เป็นต้น เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในประเทศ ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำตลาดเหล็กทรงยาวในภูมิภาคอาเซียนในปี 58