xs
xsm
sm
md
lg

SCC ทุ่ม 1.5 แสนล.รุกขยายงานอาเซียน ปรับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปูนใหญ่อัดงบลงทุนเพิ่มเป็น 1.5 แสนล้านบาท รองรับการขยายงานในอาเซียน พร้อมปรับเป้ายอดขายปีนี้เป็น 20% แย้มอาจขยับเพิ่มอีกรู้ผลไตรมาส 3 หลังจากต้นปีตั้งไว้ที่ 10% เหตุยอดขายจากทุกกลุ่มธุรกิจโต พร้อมประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 5.50 บาท หลังครึ่งปีแรกกวาดกำไร 1.6 หมื่นล้าน

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะปรับเป้ายอดขายรวมเป็น 20% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 10% หลังพบว่าแนวโน้มการเติบโตของรายได้โตกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อต้นปี และยังแย้มว่าช่วงไตรมาส 3 มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะยอดขายครึ่งปีแรกเติบโตถึง 28% จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และราคาของทุกผลิตภัณฑ์ปรับสูงขึ้นแม้ราคาน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ยังทรงตัวในระดับสูงก็ตาม ขณะช่วงครึ่งปีหลังการเติบโตอาจต่ำกว่าครึ่งปีแรก กล่าวคือ จะเติบโตประมาณ 20% แต่เป็นการเติบโตภายใต้ฐานที่กว้างขึ้นเพราะราคาปิโตรเคมีจะกลับมาเป็นช่วงขาขึ้นหลังจากผ่านจุดต่ำสุดเมื่อไตรมาส 2 มาแล้ว ซึ่งการปรับประมาณการดังกล่าวยังไม่ได้รวมรายได้จากธุรกิจเซรามิกในอินโดนีเซียที่เพิ่งซื้อมาด้วย

“ธุรกิจปิโตรเคมีคาดว่า สเปรดจะดีขึ้นในปลายไตรมาส 3 ปีนี้ไปจนถึงสิ้นปีเพราะคาดว่าช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ จะมีโรงแครกเกอร์ขนาดกำลังการผลิต 2-3 แสนตันต่อปี จะปิดตัวลง บวกกับสต๊อกสินค้าในหลาย ๆ แห่งที่ซื้อเก็บไว้ใช้จะลดลงทำให้มีความต้องการสินค้าเข้าคลังมีสูงจะส่งผลดีต่อเราด้วย เพราะคงจะมีกำลังสั่งซื้อเข้ามาเพิ่ม”

ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ การลงทุนจากภาครัฐน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหาร โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ หากมีความคืบหน้าและไม่มีการเปลี่ยนแปลงแผนงานการลงทุนก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการ และจะเกิดการลงทุนตามมาอีกมาก หลังจากที่ผ่านมา พบว่า สัดส่วนของการใช้ซิเมนต์ในโครงการภาครัฐลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามรายทางของโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับการลงทุนช่วง 5 ปีหลังจากนี้ คือ ปี 55-59 บริษัทตั้งงบเพิ่มเป็น 150,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการขยายงานและสอดคล้องกับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือ AEC และเชื่อว่า อนาคตตลาดการค้าภายในอาเซียนจะเติบโตดี เห็นได้จากรายได้จากกลุ่มประชาคมอาเซียน 11,396 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายกานต์ กล่าวถึงการมุ่งขยายธุรกิจในส่วนภูมิภาค ว่า เพื่อเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอาเซียน ดังนั้นการมุ่งลงทุนในประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ซึ่งล่าสุดได้ใช้งบลงทุน 6,500 ล้านบาท ซื้อธุรกิจเซรามิกและจัดจำหน่ายในอินโดนีเซีย จะส่งผลให้บริษัทเป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในประเทศดังกล่าว

“เซรามิกเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตดี เราตั้งเป้าอาจเป็นอันดับ 1 ได้ จากปัจจุบันอยู่อันดับ 2 และเรายังจะลงทุนเพิ่มต่อเนื่องเพราะการลงทุนในอินโดนีเซียเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนที่เวียดนามการลงทุนในด้านวัสดุก่อสร้างช่วงนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องค่าเงินด่อง เราต้องรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม”

ขณะความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนามนั้น คาดว่า ปลายปีนี้จะมีความชัดเจนเรื่องแหล่งเงินทุน และจากการหารือกับพันธมิตรมองว่าน่าจะใช้การกู้เงินจากสถาบันการเงินแล้วให้ผู้ถือหุ้นแต่ละรายเป็นผู้ค้ำประกัน เพราะโครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนสูงถึง 4 พันล้านเหรียญ และ SCC จะลงทุนในสัดส่วนไม่เกิน 51% ซึ่งบริษัทไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุน

ทั้งนี้ ผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมีกำไร 7,496 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจซิเมนต์และมีเงินปันผลรับจากบริษัทอื่นเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการขาย 93,876 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณการขายของธุรกิจเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น ขณะที่มีกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 16,703 ล้านบาท และจากผลงานที่ดี ดังนั้น จึงประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับบริษัทในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 25 สิงหาคม 54
กำลังโหลดความคิดเห็น