xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.คาดเทรดหุ้นใหม่ PTTGC ได้ทัน ต.ค.นี้ บอร์ดนัดสรุปก่อน 1 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

PTTCH-PTTAR นัดประชุมบอร์ดทั้ง 2 บริษัทในต้นก.ย. ก่อนนัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมกันเพื่ออนุมัติการตั้งบริษัทใหม่ ปตท.โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) คาดเข้าเทรดซื้อขายในตลาดหุ้นได้ต.ค.นี้ ล่าช้ากว่าแผนเดิม เนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมากในการจัดกำลังคนที่มีพนักงานรวมกันถึง 4 พันคน "บวร" บิ๊กPTTAR ชี้ไตรมาส 3 นี้ผลประกอบการดีกว่าQ2/54 ที่มีรายได้และกำไรลดลงจากไตรมาสก่อนเหตุราคาอะโรเมติกส์ร่วง

นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด(มหาชน) (PTTAR) เปิดเผยว่า บริษัทและ บริษัท ปตท เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTCH) จะเรียกประชุมคณะกรรมการของทั้ง 2 บริษัทในวันเดียวกันช่วงต้นเดือนก.ย. เพื่ออนุมัติแผนควบรวมกิจการและจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ พร้อมกับกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นร่วมกันของทั้ง 2 บริษัทในต้นเดือนต.ค. เพื่ออนุมัติตั้งบริษัทใหม่ คือ บมจ.ปตท.โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ภายหลังการควบรวมกิจการ คาดว่าบริษัทใหม่จะเทรดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในเดือนต.ค.นี้ หลังจากเลื่อนจากกำหนดการตามแผนเดิมที่ระบุไว้ในเดือนส.ค.2554

สาเหตุสำคัญที่ทำให้แผนการควบรวมกิจการระหว่างPTTCH-PTTAR ต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากมีรายละเอียดที่ยังยุติไม่ได้เกี่ยวกับองค์กรภายในและการจัดกำลังคน ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีพนักงานรวม 1 พันคน และบมจ.ปตท.เคมิคอลมีพนักงานรวม 2 พันคน และบริษัทลูกของทั้ง 2 บริษัทมีพนักงานรวม 1 พันคน เบ็ดเสร็จบริษัทใหม่จะมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 4 พันคน ทั้งนี้ แม้ว่าการควบรวมกิจการมีความล่าช้าไปกว่าแผนไปบ้าง แต่บริษัทก็ยังเดินหน้าการควบรวมกิจการของทั้ง 2 บริษัทอยู่

นายบวรกล่าวต่อไปว่า ในไตรมาส 2 นี้บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิต่ำกว่าไตรมาส1/2554 ที่มีกำไรสุทธิ 4,979 ล้านบาท แต่ผลดำเนินงานดีกว่าไตรมาส 1/2553 ที่ขาดทุนสุทธิ 515 ล้านบาท เนื่องจากราคาอะโรเมติกส์ปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาส 2 นี้ แต่เชื่อว่าไตรมาส 3 นี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มสดใส เนื่องจากราคาอะโรเมติกส์ดีขึ้น ทำให้ภาพรวมรายได้และกำไรสุทธิของบริษัทในปีนี้ดีกว่าปีก่อนแน่นอน

ขณะนี้ราคาพาราไซลีนเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีโรงงานผลิตPETและโพลีเอสเตอร์เกิดขึ้นมากทำให้ความต้องการใช้พาราไซลีนสูงขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อทำให้โรงงานผลิตPETและโพลีเอสเตอร์ชะลอกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ตาม ในปีนี้กำลังการผลิตใหม่ของพาราคาไซลีนไม่มี ทำให้ราคาพาราไซลีนยังดีต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/2554 ส่วนเบนซีนพบว่ามีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นจากโรงงานผลิตสไตรีนโมโนเมอร์ (SM) ที่เกิดขึ้น ทำให้ราคาเบนซีนปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ ราคาอะโรเมติกส์จะยังดีต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี

ส่วนค่าการกลั่นในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าไตรมาส 2/2554 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกใน 6 เดือนข้างหน้าเฉลี่ยเกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ทั้งนี้คงต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สินของยุโรป รวมทั้งเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและจีนจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้นหรือไม่

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาน้ำมันในช่วงนี้ทรงตัว โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนเบนซินและดีเซลอยู่ที่ 125-130 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เชื่อว่าแนวโน้มราคาน้ำมันจะไม่ผันผวนไปมากกว่านี้ จึงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ เนื่องจากค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ลิตรละ 1 บาทกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น