ก.ล.ต. ส่งเจ้าหน้าตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกยึดหลักฐานประกอบการซื้อขายหุ้นผู้จัดการกองทุนค่าย SCBAM หลังพบพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาศัยพอร์ตบริษัท เอื้อผลประโยชน์ส่วนตน "โชติกา" ออกโรงย้ำความมั่นใจ ระบบโปร่งใส พร้อมตรวจสอบได้
รายงานข่าวจากวงการจัดการกองทุน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งเจ้าหน้าตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ายึดหลักฐานประกอบการซื้อขายหุ้น เช่น โทรศัพท์ และ Notebook รวมถึงหลักฐานอื่นที่เกี่ยวกับการซื้อขายของ ผู้จัดการกองทุน SCB Assets Management Co.,Ltd.(SCBAM) เนื่องจากได้พบเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม โดยการอาศัยพอร์ตการลงทุนของบริษัท ซื้อขายเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตน
โดยพฤติกรรมของ ผู้จัดการกองทุนคนนี้ เป็นที่รับทราบในวงการ บลจ. และโบรกเกอร์แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยังได้ไปเอาหลักฐานการซื้อขายที่ บลจ.กสิกรไทย ด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้จัดการคนดังกล่าว เคยเป็นผู้จัดการกองทุนอยู่ที่ Kasikorn Assets Management.(K-ASSET) ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ SCBAM ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
จากข่าวดังกล่าว นางวรวรรณ ธาราภูมิ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (Association of Investment Management Companies. หรือ AIMC) กล่าวว่า ตน ได้แนะนำไปทางสมาคม บลจ.ให้คุยกับ ชมรมหน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทจัดการ (Compliance unit) โดยให้ แต่ บลจ. ให้ชี้แจงการปฎิบัติงานต่อผู้ลงทุน และผู้ขายหน่วยลงทุน ผ่าน Website ว่าการดำเนินงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน กลต.เพื่อเป็นการปกป้องบริษัท รวมทั้งปกป้องอุตสาหกรรมด้วย
นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ สำนักงานดำเนินการอยู่แล้วและในกรณีที่เป็นเรื่องตรวจสอบแล้ว ก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในชั้นนี้
ด้านนางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์มั่นใจในระบบบริหารจัดการและระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติการของบริษัทว่ามีระบบการทำงานที่รัดกุม ซึ่งผู้จัดการกองทุนไม่สามารถสั่งซื้อหรือขายหุ้นเองได้ จะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนของบริษัท ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของจรรยาบรรณของผู้จัดการกองทุน ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ
**BBLAM ออกโรงย้ำความมั่นใจลูกค้า**
จากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้บลจ.เอง ต้องออกมาแสดงความมั่นใจต่อลูกค้า โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM ออกมาชี้แจงผู้ลงทุนว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับทีมผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแห่งหนึ่งได้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการบริหารกองทุน โดยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจากการบริหารกองทุนภายใต้การจัดการของตนนั้น บลจ.บัวหลวง จำกัด ขอเรียนให้ท่านผู้ถือหน่วยลงทุนและผู้เกี่ยวข้องมีความมั่นใจได้ว่า ทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ไม่เคยมีพฤติกรรมในการบริหารกองทุนเช่นว่านั้น
โดยบริษัทฯ มีระเบียบวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนในการบริหารกองทุน เช่น กลุ่มจัดการกองทุนจะต้องซื้อขายหลักทรัพย์บนพื้นฐานของเหตุผลที่เหมาะสม ไม่ซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีลักษณะถี่เกินความเหมาะสมที่กำหนดไว้ รวมถึงมีเกณฑ์ในการคัดเลือกโบรกเกอร์ในการส่งคำสั่งซื้อขายโดยไม่เคยมีการกำหนดจากผู้ถือหุ้นว่าต้องส่งให้โบรกเกอร์ในเครือเพื่อเอื้อธุรกิจแต่ประการใด และหากจะมีการพบกับผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนเพื่อหาข้อมูลการลงทุนก็จะทำโดยลำพังไม่ได้ ต้องทำร่วมกับบริษัทอื่นเพื่อป้องกันมิให้ไปตกลงผลประโยชน์ในการทำราคาหุ้น หรือมิฉะนั้นก็ต้องมีตัวแทนของฝ่ายกำกับการปฏิบัติงานเข้าร่วมด้วยทุกครั้ง
รายงานข่าวจากวงการจัดการกองทุน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งเจ้าหน้าตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ายึดหลักฐานประกอบการซื้อขายหุ้น เช่น โทรศัพท์ และ Notebook รวมถึงหลักฐานอื่นที่เกี่ยวกับการซื้อขายของ ผู้จัดการกองทุน SCB Assets Management Co.,Ltd.(SCBAM) เนื่องจากได้พบเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม โดยการอาศัยพอร์ตการลงทุนของบริษัท ซื้อขายเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตน
โดยพฤติกรรมของ ผู้จัดการกองทุนคนนี้ เป็นที่รับทราบในวงการ บลจ. และโบรกเกอร์แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยังได้ไปเอาหลักฐานการซื้อขายที่ บลจ.กสิกรไทย ด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้จัดการคนดังกล่าว เคยเป็นผู้จัดการกองทุนอยู่ที่ Kasikorn Assets Management.(K-ASSET) ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ SCBAM ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
จากข่าวดังกล่าว นางวรวรรณ ธาราภูมิ ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (Association of Investment Management Companies. หรือ AIMC) กล่าวว่า ตน ได้แนะนำไปทางสมาคม บลจ.ให้คุยกับ ชมรมหน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทจัดการ (Compliance unit) โดยให้ แต่ บลจ. ให้ชี้แจงการปฎิบัติงานต่อผู้ลงทุน และผู้ขายหน่วยลงทุน ผ่าน Website ว่าการดำเนินงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน กลต.เพื่อเป็นการปกป้องบริษัท รวมทั้งปกป้องอุตสาหกรรมด้วย
นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ สำนักงานดำเนินการอยู่แล้วและในกรณีที่เป็นเรื่องตรวจสอบแล้ว ก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในชั้นนี้
ด้านนางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์มั่นใจในระบบบริหารจัดการและระบบการกำกับดูแลการปฏิบัติการของบริษัทว่ามีระบบการทำงานที่รัดกุม ซึ่งผู้จัดการกองทุนไม่สามารถสั่งซื้อหรือขายหุ้นเองได้ จะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนของบริษัท ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของจรรยาบรรณของผู้จัดการกองทุน ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ
**BBLAM ออกโรงย้ำความมั่นใจลูกค้า**
จากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้บลจ.เอง ต้องออกมาแสดงความมั่นใจต่อลูกค้า โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM ออกมาชี้แจงผู้ลงทุนว่า ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับทีมผู้บริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแห่งหนึ่งได้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการบริหารกองทุน โดยแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจากการบริหารกองทุนภายใต้การจัดการของตนนั้น บลจ.บัวหลวง จำกัด ขอเรียนให้ท่านผู้ถือหน่วยลงทุนและผู้เกี่ยวข้องมีความมั่นใจได้ว่า ทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ไม่เคยมีพฤติกรรมในการบริหารกองทุนเช่นว่านั้น
โดยบริษัทฯ มีระเบียบวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนในการบริหารกองทุน เช่น กลุ่มจัดการกองทุนจะต้องซื้อขายหลักทรัพย์บนพื้นฐานของเหตุผลที่เหมาะสม ไม่ซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีลักษณะถี่เกินความเหมาะสมที่กำหนดไว้ รวมถึงมีเกณฑ์ในการคัดเลือกโบรกเกอร์ในการส่งคำสั่งซื้อขายโดยไม่เคยมีการกำหนดจากผู้ถือหุ้นว่าต้องส่งให้โบรกเกอร์ในเครือเพื่อเอื้อธุรกิจแต่ประการใด และหากจะมีการพบกับผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนเพื่อหาข้อมูลการลงทุนก็จะทำโดยลำพังไม่ได้ ต้องทำร่วมกับบริษัทอื่นเพื่อป้องกันมิให้ไปตกลงผลประโยชน์ในการทำราคาหุ้น หรือมิฉะนั้นก็ต้องมีตัวแทนของฝ่ายกำกับการปฏิบัติงานเข้าร่วมด้วยทุกครั้ง
