"ดีแทค" แถลงผลประกอบการครึ่งปีแรก โดยเป็นผลจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ รายได้จากบริการเสริม และการจำหน่ายสมาร์ทโฟน ระบุ จำนวนลูกค้าใหม่เพิ่ม 3.84 แสนราย ทำให้มีลูกค้าในมือตอนนี้ 22.7 ล้านราย "ซีอีโอ" ลั่น 3จี ปีนี้ มาแน่นอน มั่นใจเปิดให้บริการได้ ก.ย.นี้
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC กล่าวในงานแถลงข่าว “ทิศทางธุรกิจและผลประกอบการ ไตรมาส 2/2554” โดยระบุว่า บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 19.7 พันล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นผลจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการ รายได้จากบริการเสริม และการจำหน่ายสมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ยังมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีค่าเลื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาสนี้เป็นจำนวน 6.9 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ที่ 35% อันเป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ และมาตรการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น บริษัทมีกำไรสุทธิ 3 พันล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสามารถสร้างกระแสเงินสด 6 พันล้านบาท (นิยามโดยกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลบด้วย รายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือ CAPEX)
สำหรับในช่วงไตรมาส 2/2554 มีจำนวนลูกค้าใหม่จำนวน 384,000 ราย ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ารวม 22.7 ล้านราย
"ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรก แสดงถึงแนวโน้มที่ดีของรายได้ โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้จากบริการเสริมซึ่งเรายืนยันในแผนที่จะเปิดให้บริการ 3G ในย่านความถี่ 850 MHz ในไตรมาสที่ 3 นี้เพื่อรองรับความต้องการใช้งานด้านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีแทค กล่าวอีกว่าสำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงยืนยันในแผนที่จะเปิดให้บริการ 3G ในย่านความถี่ 850 MHz ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการใช้งานด้านข้อมูล หรือบริการอินเตอร์เนตบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ เรายังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความแข็งแกร่งของ ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรก เราจึงปรับเป้ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานสำหรับทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็นที่ระดับประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท