ซีอีโอ “วายแอลจี” ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์เทรดซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส ปีนี้ 15% พร้อมปรับเพิ่มเป้าเทรดโกลด์ฟิวเจอร์สเป็น 20% เล็งขยายเวลาเทรดพร้อมเพิ่มจำนวนพนักงานรองรับตลาดโต
นางสาว (น.ส.) ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดการซื้อขายซิลเวอร์ ฟิวเจอร์ส (สัญญาล่วงหน้าอ้างอิงโลหะเงิน) ประมาณ 15% ภายในสิ้นปี พร้อมกับปรับเป้าส่วนแบ่งการตลาดเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ส เพิ่มเป็น 20% จากเป้าหมายที่วางไว้ต้นปี 15% และเพิ่มทีมงานให้บริการด้านโกลด์ฟิวเจอร์ส เพื่อรองรับนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น
ขณะนี้ บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงระบบงานภายในเรียบร้อยเพื่อรองรับการเปิดซื้อขายซิลเวอร์ ฟิวเจอร์ส (Silver Futures) ที่ให้บริการแก่นักลงทุนในวันที่ 20 มิถุนายน 2554 (วันนี้) โดยการดำเนินการครอบคลุมทั้งระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการซื้อขายในช่วงกลางคืน หรือจนถึงเวลา 22.30 น.รวมถึงการเพิ่มบุคลากรอีกจำนวนมากเพื่อให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น.ส.ฐิภา กล่าวว่า ซิลเวอร์ ฟิวเจอร์ส เป็นสินค้าใหม่สำหรับการลงทุนในประเทศไทย จึงอยากให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะราคาโลหะเงินในตลาดโลกมีความผันผวนสูงกว่าราคาทองคำถึง 2 เท่าตัว และยังสามารถทำกำไรได้ดีกว่าราคาทองคำค่อนข้างมาก โดยคาดว่า ปีนี้โลหะเงินจะให้ผลตอบแทนประมาณ 40% ขณะที่คาดการณ์ว่า ทองคำจะให้ผลตอบแทนประมาณ 15% ซึ่งถือเป็นผลตอบแทนที่มากกว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนของเงินลงทุน เพราะใช้เงินลงทุนน้อย อย่างไรก็ตามก็มีความเสี่ยงมากกว่าเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนแนวโน้มการปรับขึ้นของราคาโลหะเงินนั้นหลักๆ ก็ยังเป็นความต้องการในอุตสาหกรรมที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีน รวมถึงความต้องการลงทุนในโลหะเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจและสภาวะเงินเฟ้อเช่นเดียวกับการลงทุนในทองคำก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้มาก ก็สามารถเพิ่มพอร์ตการลงทุนเข้าไปลงทุนในตัวโลหะเงินได้ถึง 70% ส่วนทองคำอาจเป็น 30% ซึ่งในช่วงนี้นักลงทุนสามารถหาความรู้เรื่องซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเพิ่มเติมได้จากการสัมมนาของบริษัทที่จะจัดอย่างต่อเนื่อง
น.ส.ฐิภา กล่าวว่า วายแอลจี มองภาพรวมของราคาโลหะเงินในระยะกลางและระยะยาว ว่า ยังเป็นช่วงของขาขึ้น โดยกลยุทธ์การลงทุนจะมีลักษณะเหมือนการลงทุนทองคำ คือ ให้ทยอยสะสมถ้าเห็นราคาปรับลดลง โดยเบื้องต้นวายแอลจีประเมินกรอบการเคลื่อนไหวถึงเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 34-43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ประเมินราคาเป้าหมายปลายปีไว้ที่ระดับ 46 ดอลลาร์ต่อออนซ์