หลังจากนำเสนอรูปแบบการลงทุนในโลหะเงินและปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาในตลาดโลกไปในคราวก่อน พบว่าอุปสงค์การลงทุนในโลหะเงินคิดเป็น 17% จากอุปสงค์รวมในปี 2010 ซึ่งเติบโตจากปี 2009 มากกว่า 40% และปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นในตลาดซื้อขายล่วงหน้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐได้สะท้อนความนิยมต่อการลงทุนในโลหะเงิน และมองเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา สำหรับบทความในครั้งนี้มามาดูกันต่อถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องติดตาม และการลงทุนใน Silver Futures
นอกเหนือจากอุปสงค์และอุปทาน ปัจจัยอื่นเช่น วงจรของอุตสาหกรรม ภาวะเศรษฐกิจ ทิศทางราคาทองคำและโลหะอื่น ๆ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินสำคัญในตลาดโลก ยังส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาโลหะเงินในแต่ละช่วง
ขณะที่ การลงทุนใน Silver Futures ที่ตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ซื้อขายกันในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ นักลงทุนยัง ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากธุรกรรมในฟิวเจอร์สอยู่ในรูปสกุลเงินบาท แต่สินค้าอ้างอิงเป็นโลหะเงินในตลาดลอนดอนหรือLondon Silver Fixing ที่มีการซื้อขายในสกุลดอลลาร์
จากกราฟความสัมพันธ์ของราคาโลหะเงินและค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าส่วนใหญ่ราคาและค่าเงินมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกัน เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ Silver Futures มีอัตราการขึ้นลงไม่เท่ากับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาโลหะเงิน
ส่วนรายละเอียดสัญญา (Contract Specification) ของ Silver Futuresโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับ Gold futures ทั้งช่วงเวลาที่เปิดให้ซื้อขาย อายุสัญญา ช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาสูงสุดแต่ละวัน การชำระราคาเป็นเงินสด และวันซื้อขายสุดท้าย ต่างกันเพียงสินค้าอ้างอิงเป็นโลหะเงินความบริสุทธิ์ 99.99% และมีขนาดสัญญา 100 ทรอยออนซ์ โดยสูตรการคำนวณราคาที่ใช้ชำระวันสุดท้าย ( Final settlement ) ไม่ต้องแปลงน้ำหนักเช่นเดียวกับ Gold futures ดังนี้
การเสนอราคาซื้อขายเป็นราคาโลหะเงินต่อ 1 ทรอยออนซ์ เช่น หากมองราคาโลหะเงินในตลาดโลกอยู่ที่ 37 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ทรอยออนซ์ และค่าเงินบาทอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขายที่ 1147 บาท ต่อ 1 ทรอยออนซ์ (37 x 31) หรือคิดเป็นมูลค่าต่อ 1 สัญญาที่ 114,700 บาท(37 x 31x100)
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Silver Futures ได้เปิดโอกาสให้ทำกำไรได้ ไม่ว่าราคาโลหะเงินจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง คือ เมื่อมองราคาเป็นขาขึ้น นักลงทุนเข้าซื้อที่ราคาถูก และขายที่ราคาแพงกว่า หรือในช่วงราคาขาลง นักลงทุนขายที่ราคาแพง และซื้อคืนที่ราคาถูกกว่า นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในฟิวเจอร์สต่างสัญญา หรือการลงทุนไปพร้อมกับ Gold Futures โดยใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของราคาทองคำและโลหะเงิน ซึ่งจะมานำเสนอในบทความครั้งต่อๆไป ทั้งนี้นักลงทุนที่มีคำแนะนำหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับบทความสามารถ ส่งคำถามมาได้ที่ pinkaews@phillip.co.th
นอกเหนือจากอุปสงค์และอุปทาน ปัจจัยอื่นเช่น วงจรของอุตสาหกรรม ภาวะเศรษฐกิจ ทิศทางราคาทองคำและโลหะอื่น ๆ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินสำคัญในตลาดโลก ยังส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาโลหะเงินในแต่ละช่วง
ขณะที่ การลงทุนใน Silver Futures ที่ตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ซื้อขายกันในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ นักลงทุนยัง ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากธุรกรรมในฟิวเจอร์สอยู่ในรูปสกุลเงินบาท แต่สินค้าอ้างอิงเป็นโลหะเงินในตลาดลอนดอนหรือLondon Silver Fixing ที่มีการซื้อขายในสกุลดอลลาร์
จากกราฟความสัมพันธ์ของราคาโลหะเงินและค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าส่วนใหญ่ราคาและค่าเงินมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกัน เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ Silver Futures มีอัตราการขึ้นลงไม่เท่ากับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาโลหะเงิน
ส่วนรายละเอียดสัญญา (Contract Specification) ของ Silver Futuresโดยทั่วไปคล้ายคลึงกับ Gold futures ทั้งช่วงเวลาที่เปิดให้ซื้อขาย อายุสัญญา ช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาสูงสุดแต่ละวัน การชำระราคาเป็นเงินสด และวันซื้อขายสุดท้าย ต่างกันเพียงสินค้าอ้างอิงเป็นโลหะเงินความบริสุทธิ์ 99.99% และมีขนาดสัญญา 100 ทรอยออนซ์ โดยสูตรการคำนวณราคาที่ใช้ชำระวันสุดท้าย ( Final settlement ) ไม่ต้องแปลงน้ำหนักเช่นเดียวกับ Gold futures ดังนี้
การเสนอราคาซื้อขายเป็นราคาโลหะเงินต่อ 1 ทรอยออนซ์ เช่น หากมองราคาโลหะเงินในตลาดโลกอยู่ที่ 37 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 ทรอยออนซ์ และค่าเงินบาทอยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขายที่ 1147 บาท ต่อ 1 ทรอยออนซ์ (37 x 31) หรือคิดเป็นมูลค่าต่อ 1 สัญญาที่ 114,700 บาท(37 x 31x100)
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Silver Futures ได้เปิดโอกาสให้ทำกำไรได้ ไม่ว่าราคาโลหะเงินจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง คือ เมื่อมองราคาเป็นขาขึ้น นักลงทุนเข้าซื้อที่ราคาถูก และขายที่ราคาแพงกว่า หรือในช่วงราคาขาลง นักลงทุนขายที่ราคาแพง และซื้อคืนที่ราคาถูกกว่า นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในฟิวเจอร์สต่างสัญญา หรือการลงทุนไปพร้อมกับ Gold Futures โดยใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของราคาทองคำและโลหะเงิน ซึ่งจะมานำเสนอในบทความครั้งต่อๆไป ทั้งนี้นักลงทุนที่มีคำแนะนำหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับบทความสามารถ ส่งคำถามมาได้ที่ pinkaews@phillip.co.th
