เอเชีย กรีน เล็งปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 100% จากปีก่อน ถือเป็นการปรับครั้งที่ 4 หลังความต้องการใช้ถ่านหินสูงขึ้น เตรียมเพิ่มทุนปีหน้า หวังระดมทุนซื้อเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย จากปีนี้เป็นการร่วมทุนก่อน " ผู้บริหาร " ปลื้มได้รับบริษัทยอดเยี่ยมขนาดเล็กผลงานดีเด่น จาก นิตยสาร FinanceAsia
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด (มหาชน)หรือ AGE เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/54 บริษัทอาจมีการปรับรายได้ปี54 เป็นครั้งที่ 4 โดยคาดว่าจะโตขึ้น 100% จากปีก่อนจากเดิมที่คาดว่าจะโต 80% หรือมีรายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท จากปี 53 ที่มีรายได้รวม 2,839 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศและต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ที่มีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 290 โรง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 10 โรง ประกอบกับราคาขายถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวอยู่ในะดับสูง แต่การปรับขึ้นต้องขอดูผลประกอบการไตรมาส3/54 ก่อนถึงจะเห็นภาพชัดเจนของผลประกอบการปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทคาดรายได้และกำไร 2/ 54 จะดีใกล้เคียงในไตรมาส 1/54 ที่มีรายได้รวม 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/54 ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโต 100% ประกอบปริมาณถ่านหินที่มีนั้นค่อนข้างจะตรึงตัวจากความต้องการใช้ที่มีสูง แต่เชื่อว่าในช่วงไตรมาส 3/54 และไตรมาส 4/54 ปริมาณถ่านหินจะมีมากขึ้น เป็นผลจากการที่ประเทศอินโดนีเซียจะมีการสำรวจและขุดถ่านหินมากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าในการเข้าไปลงทุนในเหมืองที่อินโดนีเซียนั้น มีความชัดเจนว่าบริษัทจะเข้าไปร่วมทุนแน่นอน ซึ่งบริษัทจะถือหุ้นมากกว่า 50% คาดว่าจะใช้เงินลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจากกระแสเงินสดของบริษัท และเงินจากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท (AGE-W1)เพื่อไม่ให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) สูงเกินไป ซึ่งคาดว่าจะได้สรุปในการเข้าร่วมลงทุนดังกล่าวประมาณ ไตรมาส3 หรือไตรมาส4 ปีนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าไปร่วมทุนแล้ว บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปซื้อเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเหมืองขนาดใหญ่มีปริมาณถ่านหินสำรอง 10 ล้านตัน โดยเงินลงทุนนั้นค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทจะต้องมีการเพิ่มทุน เพื่อระดมเงินไปลงทุนในปีหน้า
นายพนมกล่าวว่าบริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทยอดเยี่ยมขนาดเล็กผลงานดีเด่น จาก นิตยสาร FinanceAsia ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินชั้นนำของเอเชียซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นประจำปี 54 โดย FinanceAsia ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงินชั้นนำ กว่า 300 รายทั่วโลก ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อจัดอันดับบริษัทที่ดีที่สุด ของประเทศต่างๆ ในเอเชีย 10 ประเทศ (ไทย จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี และสิงคโปร์)
สำหรับรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จในด้านกลยุทธ์ การบริหารงาน ผลการดำเนินงาน ความโปร่งใส ในการเปิดเผยข้อมูลและการกำกับดูแลกิจการภายใต้ หลักบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งบริษัทจะยังมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งทางด้านธุรกิจและเพื่อสังคม
" ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น ตัวแทนผู้บริหาร และพนักงาน AGE ผมขอขอบคุณ นิตยสาร FinanceAsia ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำ ระดับภูมิภาคเอเชีย ที่ได้มอบรางวัล "บริษัทยอดเยี่ยมขนาดเล็กดีเด่น "หรือ Asia’s best companies 2011 Thailand best small - cap และขอขอบคุณผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงินชั้นนำ ที่ให้การสนับสนุนและให้ความเชื่อมั่นกับบริษัท AGE " นายพนม กล่าว
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอ็นเนอร์จี จำกัด (มหาชน)หรือ AGE เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/54 บริษัทอาจมีการปรับรายได้ปี54 เป็นครั้งที่ 4 โดยคาดว่าจะโตขึ้น 100% จากปีก่อนจากเดิมที่คาดว่าจะโต 80% หรือมีรายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท จากปี 53 ที่มีรายได้รวม 2,839 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศและต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ที่มีการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 290 โรง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 10 โรง ประกอบกับราคาขายถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวอยู่ในะดับสูง แต่การปรับขึ้นต้องขอดูผลประกอบการไตรมาส3/54 ก่อนถึงจะเห็นภาพชัดเจนของผลประกอบการปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทคาดรายได้และกำไร 2/ 54 จะดีใกล้เคียงในไตรมาส 1/54 ที่มีรายได้รวม 1.3 พันล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/54 ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโต 100% ประกอบปริมาณถ่านหินที่มีนั้นค่อนข้างจะตรึงตัวจากความต้องการใช้ที่มีสูง แต่เชื่อว่าในช่วงไตรมาส 3/54 และไตรมาส 4/54 ปริมาณถ่านหินจะมีมากขึ้น เป็นผลจากการที่ประเทศอินโดนีเซียจะมีการสำรวจและขุดถ่านหินมากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าในการเข้าไปลงทุนในเหมืองที่อินโดนีเซียนั้น มีความชัดเจนว่าบริษัทจะเข้าไปร่วมทุนแน่นอน ซึ่งบริษัทจะถือหุ้นมากกว่า 50% คาดว่าจะใช้เงินลงทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจากกระแสเงินสดของบริษัท และเงินจากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท (AGE-W1)เพื่อไม่ให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) สูงเกินไป ซึ่งคาดว่าจะได้สรุปในการเข้าร่วมลงทุนดังกล่าวประมาณ ไตรมาส3 หรือไตรมาส4 ปีนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเข้าไปร่วมทุนแล้ว บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปซื้อเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเหมืองขนาดใหญ่มีปริมาณถ่านหินสำรอง 10 ล้านตัน โดยเงินลงทุนนั้นค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทจะต้องมีการเพิ่มทุน เพื่อระดมเงินไปลงทุนในปีหน้า
นายพนมกล่าวว่าบริษัทได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทยอดเยี่ยมขนาดเล็กผลงานดีเด่น จาก นิตยสาร FinanceAsia ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินชั้นนำของเอเชียซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นประจำปี 54 โดย FinanceAsia ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงินชั้นนำ กว่า 300 รายทั่วโลก ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อจัดอันดับบริษัทที่ดีที่สุด ของประเทศต่างๆ ในเอเชีย 10 ประเทศ (ไทย จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี และสิงคโปร์)
สำหรับรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จในด้านกลยุทธ์ การบริหารงาน ผลการดำเนินงาน ความโปร่งใส ในการเปิดเผยข้อมูลและการกำกับดูแลกิจการภายใต้ หลักบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งบริษัทจะยังมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งทางด้านธุรกิจและเพื่อสังคม
" ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น ตัวแทนผู้บริหาร และพนักงาน AGE ผมขอขอบคุณ นิตยสาร FinanceAsia ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำ ระดับภูมิภาคเอเชีย ที่ได้มอบรางวัล "บริษัทยอดเยี่ยมขนาดเล็กดีเด่น "หรือ Asia’s best companies 2011 Thailand best small - cap และขอขอบคุณผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงินชั้นนำ ที่ให้การสนับสนุนและให้ความเชื่อมั่นกับบริษัท AGE " นายพนม กล่าว