xs
xsm
sm
md
lg

อัดหมื่นล้านผ่าน 3 แบงก์รัฐ รีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต ดีเดย์ 1 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรณ์ จาติกวณิช (แฟ้มภาพ)
“คลัง” อัดหมื่นล้านรีไฟแนนซ์หนี้ “บัตรเครดิต” ผ่านช่องทาง 3 แบงก์รัฐ ดีเดย์ 1 มิ.ย.นี้ คิด ดบ.ต่ำ 10% ยันเป้าหมายไม่ใช่ต้องการเอาลูกหนี้จำนวนมากเข้ามาแบก แต่ต้องการให้แบงก์พาณิชย์กลับไปทบทวนดอกเบี้ยโหด “อารีพงศ์” ยอมรับลูกหนี้บัตร 14 ล้านราย มูลหนี้กว่า 3.5 หมื่นล้าน ถูกมัดมือขูด ดบ.สูงถึง 20% “กรณ์” สั่งคิวต่อไปล้างหนี้ “อิออน-เฟิร์สชอยส์” ดบ.มหาโหด 28%


นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการเปิดโครงการปรับโครงสร้างหนี้ (รีไฟแนนซ์) หนี้บัตรเครดิต โดยระบุว่าโครงการลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตให้กับประชาชนจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2554 นี้ ถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2554 ผ่านทางธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม มีวงเงินในโครงการทั้งหมด 10,000 ล้านบาท

โครงการดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับผู้ที่เป็นลูกค้าชั้นดี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 10 ต่อปี สำหรับจุดประสงค์โครงการนี้อยากให้สถาบันการเงินต่างๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าชั้นดี เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าโอนหนี้เข้าร่วมโครงการของรัฐ ส่วนลูกค้าในส่วนของบัตรกดเงินสด ที่ไม่ได้ออกให้โดยสถาบันการเงินนั้น ทางรัฐบาลจะมีโครงการออกมา เพื่อช่วยลดภาระในเร็วๆ นี้

“ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องแสดงเจตจำนงว่าจะไม่ก่อหนี้บัตรเครดิตเพิ่มภายใน 1 ปี แต่กรณีที่มีบัตรหลายใบ ก็สามารถเก็บบัตรไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้”

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการนี้ถือเป็นหน้าที่ปกติของธนาคารรัฐ ที่จะต้องให้การช่วยเหลือประชาชน รัฐบาลจึงไม่ต้องให้การชดเชย โดยเป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การโอนหนี้บัตรเครดิตมาที่ธนาคารทั้ง 3 แห่งจำนวนมาก แต่ต้องการกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์หันไปทบทวนอัตราดอกเบี้ยของตัวเองให้มีความเหมาะสม

ส่วนกรณีที่ธนาคารพาณิชย์อาจจะไปชดเชยรายได้ด้วยการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมอื่นๆ นั้น รมว.คลังยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่น่ากังวล เพราะรัฐจะมีมาตรการเพื่อติดตามดูแลอยู่แล้ว

นอกจากนี้ รมว.คลังยังได้มอบหมายให้นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังไปศึกษาถึงการรีไฟแนนซ์หนี้ในส่วนของผู้ถือบัตรเงินสดของนอนแบงก์ หลังจากดำเนินในส่วนของผู้ถือบัตรเครดิตแล้ว โดยคัดเฉพาะลูกหนี้ดีมาดำเนินการ ซึ่งปัจจุบันถูกคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 28 ต่อปี ขณะที่ผู้ถือบัตรเหล่านี้มีรายได้ เพื่อช่วยลดหนี้ให้กับประชาชนต่อไป

ด้าน ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวเสริมว่า โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตชั้นดีที่มีความสามารถชำระหนี้ได้ในขั้นต่ำร้อยละ 10 ซึ่งต้องแบกภาระดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีลูกหนี้บัตรเครดิตทั้งสิ้น 14 ล้านราย โดยในจำนวนนี้มีมูลหนี้จำนวนประมาณ 35,000 ล้านบาท ที่มีการชำระหนี้ขั้นต่ำ

ทั้งนี้ หากมีผู้สนใจเข้าร่วมเกินวงเงินก็สามารถขยายได้ นอกจากนี้ ในระยะต่อไปจะศึกษาแนวทางให้การช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร อาทิ บัตรอิออน และเฟิร์สชอยส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย และต้องแบกรับดอกเบี้ยในอัตราสูงมาก ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น