เสนาฯ ซุ่มพัฒนาคอนโดฯ จิ๋ว หลังผลการศึกษาพบผู้บริโภครับได้ห้องขนาด 24-25 ตร.ม. ขณะที่คอนโดฯไม่เกินล้านขายดีที่สุด ประเดิมโครงการแรก เดอะ คิด คลอง 2 คอนโดฯพร้อมตกแต่งราคา 7-8 แสนบาท
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาห้องชุดขนาดเล็กขนาดเล็กกว่า 28 ตารางเมตร และจากการศึกษาพบว่า ขนาดห้องชุดเริ่มต้นที่ผู้บริโภคสามารถรับได้อยู่ที่ประมาณ 24-25 ตร.ม.
จากผลการศึกษาดังกล่าว บริษัทจึงเลือกใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ให้กับแบรนด์เดอะ คิทท์ คลอง 2 เพื่อจัดแพ็คเกจราคาต่อหน่วยให้ยังคงสามารถขายได้ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท รองรับกำลังซื้อที่ลดลงของผู้บริโภคตามภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพงในปัจจุบัน และรองรับความต้องการของตลาด เนื่องจากจากการขายหลายโครงการของกลุ่มเสนาฯ พบว่า โครงการที่ขายดีที่สุด คือ คอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ในเบื้องต้นบริษัทได้ออกแบบโครงการเดอะ คิทท์ คลอง 2 ให้มี 6 อาคาร ขนาดเริ่มต้น 24-25 ตร.ม. ผสมกับขนาด 28 ตร.ม. รวมแล้วจะมีจำนวนกว่า 600 ยูนิต โดยจะเปิดขายเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 7-8 แสนบาท เนื่องจากห้องขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ จึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ และที่ผ่านมาลูกค้ามากกว่า 80-90% นิยมให้ตกแต่งพร้อมอยู่มากกว่าเลือกซื้อห้องเปล่าเพื่อรับส่วนลด
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมโซนเหนือ กลุ่มเสนาฯ ประเมินว่า มีความต้องการที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่สูงนักจะได้รับความนิยมสูงมาก วัดได้จากยอดขายในโครงการเดอะ แคช ลำลูกกา ขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 6.5 แสนบาทต่อยูนิต มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ที่มีด้วยกัน 6 อาคาร ปัจจุบันปิดการขายได้ 5 อาคารแล้ว มีส่วนเหลือขายประมาณ 50% ของอาคารสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1 /2554 บริษัทมียอดขาย 400 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่มียอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 340 ล้านบาท แต่ในส่วนของกำไรไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 12 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 50% เนื่องจากปีนี้ไม่มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและลดภาษีธุรกิจเฉพาะ อีกทั้ง ยังมีค่าการตลาดที่สูงขึ้นด้วย แต่มั่นใจว่าสิ้นปีจะสามารถรักษาสัดส่วนกำไรได้ใกล้เคียงกับปีที่ 2553
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาห้องชุดขนาดเล็กขนาดเล็กกว่า 28 ตารางเมตร และจากการศึกษาพบว่า ขนาดห้องชุดเริ่มต้นที่ผู้บริโภคสามารถรับได้อยู่ที่ประมาณ 24-25 ตร.ม.
จากผลการศึกษาดังกล่าว บริษัทจึงเลือกใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ให้กับแบรนด์เดอะ คิทท์ คลอง 2 เพื่อจัดแพ็คเกจราคาต่อหน่วยให้ยังคงสามารถขายได้ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท รองรับกำลังซื้อที่ลดลงของผู้บริโภคตามภาวะเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพงในปัจจุบัน และรองรับความต้องการของตลาด เนื่องจากจากการขายหลายโครงการของกลุ่มเสนาฯ พบว่า โครงการที่ขายดีที่สุด คือ คอนโดมิเนียมราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ในเบื้องต้นบริษัทได้ออกแบบโครงการเดอะ คิทท์ คลอง 2 ให้มี 6 อาคาร ขนาดเริ่มต้น 24-25 ตร.ม. ผสมกับขนาด 28 ตร.ม. รวมแล้วจะมีจำนวนกว่า 600 ยูนิต โดยจะเปิดขายเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมตกแต่งอยู่ที่ประมาณ 7-8 แสนบาท เนื่องจากห้องขนาดเล็กจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ จึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ และที่ผ่านมาลูกค้ามากกว่า 80-90% นิยมให้ตกแต่งพร้อมอยู่มากกว่าเลือกซื้อห้องเปล่าเพื่อรับส่วนลด
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมโซนเหนือ กลุ่มเสนาฯ ประเมินว่า มีความต้องการที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่สูงนักจะได้รับความนิยมสูงมาก วัดได้จากยอดขายในโครงการเดอะ แคช ลำลูกกา ขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้น 6.5 แสนบาทต่อยูนิต มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท ที่มีด้วยกัน 6 อาคาร ปัจจุบันปิดการขายได้ 5 อาคารแล้ว มีส่วนเหลือขายประมาณ 50% ของอาคารสุดท้าย ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 1 /2554 บริษัทมียอดขาย 400 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่มียอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 340 ล้านบาท แต่ในส่วนของกำไรไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 12 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 50% เนื่องจากปีนี้ไม่มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและลดภาษีธุรกิจเฉพาะ อีกทั้ง ยังมีค่าการตลาดที่สูงขึ้นด้วย แต่มั่นใจว่าสิ้นปีจะสามารถรักษาสัดส่วนกำไรได้ใกล้เคียงกับปีที่ 2553
