xs
xsm
sm
md
lg

บางจากQ1กำไรพุ่งฟัน1.4พันล้าน ยอดขายรวมโตกว่า3.5หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บางจากฯ ไตรมาสแรก กำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 80% หลังค่าการกลั่นและกำไรสต๊อกเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ด้านผู้บริหารมั่นใจ ไตรมาส 2/54 ยังเติบโตดี

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,424.12 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.14 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 774.00 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.66 บาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 83.99%

โดยผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัท บางจากฯ มี EBITDA พื้นฐานจำนวน 1,516 ล้านบาท เมื่อรวมผลขาดทุนจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้าจำนวน 584 ล้านบาท และผลกำไรจากสต๊อกน้ำมัน1,303 ล้านบาท ทำให้มี EBITDA รวม 2,234 ล้านบาท โดยมาจากกำไรขั้นต้นรวมธุรกิจโรงกลั่นและตลาด(Gross Integrated Margin-GIM) จำนวน 16.31 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

สำหรับไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 35,759 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายของบางจากฯ 35,382 ล้านบาท รายได้จากการขายของบริษัท บางจากกรีนเนท จำนวน 5,445 ล้านบาท และรายได้จากการขายของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำนวน 683 ล้านบาท ในรายได้ดังกล่าวเป็นรายการระหว่างกันจำนวน 5,751 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปจากบริษัทฯ ให้แก่บริษัท บางจากกรีนเนท

ด้านค่าใช้จ่ายในไตรมาสแรกบริษัทและบริษัทย่อยมีต้นทุนขายและให้บริการรวม 32,420 ล้านบาท ประกอบด้วย ต้นทุนของบางจากฯ จำนวน 32,332 ล้านบาท ต้นทุนของบริษัท บางจากกรีนเนทจำนวน 5,259 ล้านบาท และต้นทุนของบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำนวน 558 ล้านบาท แต่เป็นรายการระหว่างกันจำนวน 5,729 ล้านบาท ซึ่งเป็นต้นทุนการขายน้ำมันสำเร็จรูปของบริษัทฯ ให้แก่บริษัท บางจากกรีนเนท และบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด ขาย B100 ให้บริษัทฯ

ทั้งนี้ อัตรากำไรสุทธิมีการปรับตัวตามความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก และผันแปรตามค่าการกลั่นและค่าการตลาด โดยไตรมาส 1 ปี 2554 งบการเงินรวมและงบเฉพาะบริษัทฯมีอัตรากำไรสุทธิ 3.98% และ 4.06% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 2.27% และ 2.24% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นพื้นฐานและกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ทำให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (งบการเงินรวม) ในไตรมาส 1 ปี 2554 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2.98% เป็น 5.97%

สำหรับแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 2 คาดว่าค่าการกลั่นพื้นฐานยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ต่ำกว่า 5.5-6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และเพิ่มกำลังกลั่นจากหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันใส (Complex Refinery) มากกว่า 100,000 บาร์เรล ต่อวัน

นอกจากนี้ จะมีการขยายโครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ระยะที่ 2 เพิ่มอีก 32 ?เมกะวัตต์ โดยเริ่มประมูลหาผู้รับเหมาในไตรมาส 2 และเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3 ใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 18 เดือน ส่วนโครงการฯ ระยะแรกที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีกำลังผลิตจำหน่าย 38 เมกะวัตต์ ขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 60 คาดว่าสามารถจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ ภายในเดือน ต.ค. 2554
กำลังโหลดความคิดเห็น