ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่นฯ มั่นใจผลงานไตรมาสแรกปีนี้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 53 ชี้ยอดขายมีแนวโน้มดีต่อ แจงเหตุน้ำท่วมภาคใต้ไม่กระทบวัตถุดิบกุ้ง พราะได้จากภาคตะวันออกและใต้ตอนบนและราคากุ้งไม่ได้ปรับเพิ่ม ด้านปลาทูน่าเลี่ยงวัตถุดิบจากน่านน้ำญี่ปุ่นใช้จากแหล่งอื่นแทน พร้อมส่งตรวจที่สถาบันนิวเคลียร์แห่งชาติเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด(มหาชน) หรือ TUF กล่าวว่าบริษัทมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 นี้ จะต้องดีกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้วอย่างเด่นชัด เนื่องจากภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ ปริมาณยอดขายของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
โดยในส่วนของธุรกิจกุ้งนั้น แม้ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมที่ภาคใต้ได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเลี้ยงกุ้ง แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบทั้งในแง่ของปริมาณการขายและปริมาณของวัตถุดิบ เนื่องจากบริษัทยังสามารถจัดหาแหล่งวัตถุดิบกุ้งได้อย่างเพียงพอ ซึ่งแหล่งวัตถุดิบกุ้งของบริษัทจะมาจากทางภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขณะเดียวกันราคาวัตถุดิบกุ้งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้มากนัก
นอกจากนี้ในปัจจุบันโรงงานของบริษัท 2 แห่งที่สมุทรสาคร และสงขลา ยังคงมีการดำเนินการผลิตกุ้งอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากปริมาณความต้องการสินค้ากุ้งในตลาดยังมีมาก
สำหรับธุรกิจปลาทูน่า ซึ่้งเกิดจากความกังวลเพราะจากกรณีที่ว่า วัตถุดิบปลาทูน่าจะปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีที่แพร่กระจายลงในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบประเทศญี่ปุ่นนั้น ซึ่งเรื่องนี้บริษัทได้มีนโยบายไม่ซื้อวัตถุดิบที่มาจากน่านน้ำในประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบันบริษัทจะนำเข้าวัตถุดิบปลาทูน่าจากแหล่งมหาสมุทรแปซิฟิคตะวันตกที่อยู่นอกเขตน่านน้ำประเทศญี่ปุ่น และซื้อจากมหาสมุทรอินเดีย นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังมีนโยบายที่จะตรวจสอบปลาทูน่าทุกล๊อตที่ส่งมา ด้วยการส่งไปตรวจที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ โดยจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของบริษัท
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด(มหาชน) หรือ TUF กล่าวว่าบริษัทมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 นี้ จะต้องดีกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้วอย่างเด่นชัด เนื่องจากภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ ปริมาณยอดขายของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
โดยในส่วนของธุรกิจกุ้งนั้น แม้ว่าเหตุการณ์น้ำท่วมที่ภาคใต้ได้สร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเลี้ยงกุ้ง แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบทั้งในแง่ของปริมาณการขายและปริมาณของวัตถุดิบ เนื่องจากบริษัทยังสามารถจัดหาแหล่งวัตถุดิบกุ้งได้อย่างเพียงพอ ซึ่งแหล่งวัตถุดิบกุ้งของบริษัทจะมาจากทางภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขณะเดียวกันราคาวัตถุดิบกุ้งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้มากนัก
นอกจากนี้ในปัจจุบันโรงงานของบริษัท 2 แห่งที่สมุทรสาคร และสงขลา ยังคงมีการดำเนินการผลิตกุ้งอย่างเต็มกำลัง เนื่องจากปริมาณความต้องการสินค้ากุ้งในตลาดยังมีมาก
สำหรับธุรกิจปลาทูน่า ซึ่้งเกิดจากความกังวลเพราะจากกรณีที่ว่า วัตถุดิบปลาทูน่าจะปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีที่แพร่กระจายลงในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบประเทศญี่ปุ่นนั้น ซึ่งเรื่องนี้บริษัทได้มีนโยบายไม่ซื้อวัตถุดิบที่มาจากน่านน้ำในประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบันบริษัทจะนำเข้าวัตถุดิบปลาทูน่าจากแหล่งมหาสมุทรแปซิฟิคตะวันตกที่อยู่นอกเขตน่านน้ำประเทศญี่ปุ่น และซื้อจากมหาสมุทรอินเดีย นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังมีนโยบายที่จะตรวจสอบปลาทูน่าทุกล๊อตที่ส่งมา ด้วยการส่งไปตรวจที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ โดยจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของบริษัท
