ราคาทองคำแท่งในประเทศ ยังคงปรับตัวทำสถิติสูงสุดใหม่ 21,250 บาท ตามทิศทางราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกง หลังสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,492.90 ดอลลาร์ เมื่อคืนนี้ คาดนักลงทุนวิตกเงินเฟ้อโลก และแนวโน้ม ศก.สหรัฐฯ หันลงทุนทองคำหนีความเสี่ยง ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า อยู่ที่ระดับ 30.12-30.14 บาทต่อดอลลาร์
สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองประจำวัน 19 เมษายน 2554 (วันนี้) ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 21,150 ขายบาทละ 21,250 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 20,845 ขายบาทละ 21,650
ทั้งนี้ สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน 2554 พุ่งขึ้น 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ระดับ 1492.90 เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางของสหรัฐฯ หลังจากเอสแอนด์พีประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ระดับ “เชิงลบ” จากเดิม “มีเสถียรภาพ” โดยแถลงการณ์บางตอนของเอสแอนด์พี ระบุว่า หากเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณในระยะกลางและระยะยาวได้ ก็อาจทำให้สหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง
นอกจากนี้ การที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.5% ซึ่งถือเป็นมาตรการควบคุมเงินเฟ้อครั้งใหม่นั้น ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ สวนทางกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และพากันเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ขณะที่ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 73 ดอลลาร์ฮ่องกง แตะระดับ 13,845 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตำลึง หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,494.18 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.88 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ 7.778 ดอลลาร์ฮ่องกง
ส่วนค่าเงินบาทเปิดตลาดช่วงเช้าทรงตัวจากปิดตลาดเย็นวานที่ระดับ 30.10-30.12 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวอ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับ 30.12-30.14 บาทต่อดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อันเป็นผลมาจากเงินสกุลยูโรที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก จากปัญหาหนี้ในยุโรป