xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ค้าแจงราคาทองแท่งพุ่งพรวด 200 บาท คาดได้เห็นจุดสูงสุดเป็นสถิติใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
ผู้ค้าแจงราคาทองแท่งพุ่งบาทละ 200 เกิดจากกองทุนเก็งกำไร นักลงทุนวิตกเหตุสู้รบ ตอ.กลาง-แอฟริกาเหนือ ที่ยังมีความตึงเครียด รวมถึงข่าวซาอุฯ ชี้ ราคาน้ำมันโลกอาจแตะ 200 ดอลลาร์/บาเรล พร้อมคาดแนวโน้มราคาทองมีโอกาสเห็นจุดสูงสุดสถิติใหม่

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สาเหตุที่วันนี้ราคาทองคำแท่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึงบาทละ 200 บาท มาอยู่ที่ 20,750 บาทนั้น ปัจจัยสำคัญมาจากการที่กองทุนเข้ามาเก็งกำไรราคาทองคำ ซึ่งมีผลมาจากสถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือยังมีความตึงเครียด

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงข่าวที่ซาอุดีอาระเบียออกมาระบุว่าราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งถึง 200-300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ หากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางลุกลามและบานปลายมาถึงซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก

ด้าน สมาคมค้าทองคำ เชื่อว่า การปรับขึ้นของราคาทองมีสาเหตุมาจากปัญหาในตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียด ดอลลาร์อ่อนค่าเกินไป ราคาน้ำมันก็เพิ่มขึ้นมาอีกจากความตึงเครีดยของลิเบีย และข่าวที่ซาอุฯ ออกมาพูดว่า หากเกิดการประท้วงขึ้นในซาอุฯ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสพุ่งไปถึง 200-300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงทำให้กองทุนเก็งกำไรทองคำ และน้ำมันขึ้นมาพร้อมกัน

ทั้งนี้ หากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบเรียบร้อย ก็มีแนวโน้มว่าในระยะสั้นหรือราว 1 เดือนจากนี้ไป มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณบาทละ 21,000-21,500 บาทได้

ปัจจุบันความต้องการทองคำแท่งเพื่อนำไปทำเป็นทองรูปพรรณ ยังเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่เหตุที่ราคาทองคำแท่งปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นเพราะปัจจัยการเก็งกำไรมากกว่าความต้องการที่แท้จริง

“การบริโภคที่แท้จริง คือซื้อทองแท่งมาใช้เป็นรูปพรรณยังเพิ่มไม่มาก แต่คนพยายามจะนำเงินออกจากกองทุนที่ถือครองเอาไว้มาลงทุนตรงนี้ เพื่อเก็งกำไร ต้องยอมรับว่าของทุกอย่างตอนนี้ที่ขึ้นราคา เกิดจากปัจจัยการเก็งกำไรมากกว่าบริโภคที่แท้จริง”

โดยวันนี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาซื้อขายทองคำ ดังนี้ ทองคำแท่ง รับซื้อ 20,650 บาท ขายออก 20,750 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 20,344.72 บาท ขายออก 21,150 บาท

ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิถุนายน 2554 ปิดพุ่งขึ้น 6 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 0.4% แตะที่ 1,458.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,452.50-1,467.00 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์มองว่า สัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ เนื่องนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า คณะกรรมการเฟดจะต้องจับตาดูแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

การที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อด้วย โดยเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 49 เซนต์ แตะที่ 108.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นอกเหนือจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อแล้ว สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 7 เมษายน 2554 (วันนี้)

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ 2 วันติดต่อกัน โดยล่าสุดได้ทำจุดสูงสุดไว้ที่อยู่ที่ระดับ 1,462 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้พุ่งสูงสุดเช่นเดียวกัน ที่ระดับ 20,650/20,750 บาทต่อบาททอง หลังจากกระแสความกังวลในปัญหาหนี้สาธารณะของยูโรโซนกลับมาอีกครั้งในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส หั่นเครดิตโปรตุเกสหนึ่งขั้น ลงมาอยู่ที่ Baa1 จากเดิม A3 พร้อมกับเตือนว่าโปรตุเกสอาจต้องออกรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทำให้ทองคำกลับมาเป็นที่ต้องการของนักลงทุนอีกครั้ง

ประกอบกับปัญหาจลาจลที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางยังคงหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง โดยราคาน้ำมันก็ยังคงยืนในระดับสูง ส่งผลให้ราคาทองคำวิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยที่หนุนราคาทองคำอยู่ในขณะนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้การปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของราคาทองคำก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น