xs
xsm
sm
md
lg

BANPUยันญี่ปุ่นยังซื้อถ่านหิน ขอเวลา6เดือนประเมินผลกระทบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"บ้านปู" ยืนยันแม้ญี่ปุ่นประสบปัญหาแต่ยังคงสั่งซื้อถ่านหิน "ชนินท์"ขอ 6 เดือนประเมินผลกระทบ คาดแนวโน้มราคาถ่านหินช่วง1-2เดือนนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนพฤษภาคมรู้ความชัดเจนเหมือง Centennial Coal ในออสเตรเลีย พร้อมยืนยันไม่มีแผนขายทิ้ง 2 เหมืองในจีน แม้มีความเสี่ยงเรื่องใบอนุญาต

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (BANPU) เปิดเผยว่า แม้ญี่ปุ่นจะประสบปัญหาหนัก แต่ยังไม่มีการยกเลิกคำสั่งซื้อถ่านหินปริมาณ 5 ล้านตันหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ เพียงแต่เปลี่ยนท่าเรือส่งมอบสินค้า ทั้งนี้ บริษัทจึงจะรอเวลาอีก 6 เดือนจึงจะประเมินผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่นได้เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน

สำหรับ แนวโน้มราคาถ่านหินในระยะสั้นช่วง 1-2 เดือนราคาถ่านหินจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยในญี่ปุ่น ซึ่งมีการส่งมอบล่าช้า และยังไม่รู้ว่าปริมาณความต้องการที่แท้จริงในญี่ปุ่น แต่มองว่าใน 6-12 เดือนนี้คาดว่าราคาถ่านหินจะเพิ่มสูงขึ้น จากการที่ญี่ปุ่นมีความต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้น เพราะต้องใช้ปูนซิเมนต์และเหล็กเพิ่ม จึงเห็นว่าระยะกลางระยายาวเป็นบวกอยู่ โดยขณะนี้ ราคาถ่านหินอยู่ที่ 124 เหรียญสหรัฐ/ตัน

ขณะเดียวกัน ซีอีโอ บมจ.บ้านปู คาดว่า พฤษภาคมนี้จะได้ความชัดเจนเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจระยะยาวของเหมือง Centennial Coal ในออสเตรเลีย หลังจากเข้าซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้ว หลังจากนั้นจะทำเป็นแผนชั่วคราวสำหรับปี 54 ส่วนที่เหลือจะนำไปรวมกับแผนระยะยาวของ BANPU โดยธุรกิจเหมืองในออสเตรเลียเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจที่มีอยู่ และรักษาระดับการผลิตถ่านหิน รวมทั้งใช้งบลงทุนที่เหมาะสม และการบริหารความปลอดภัย โดยระหว่างนี้มีการประชุมผู้บริหาร Centennial Coal กับ ผู้บริหาร BANPU อย่างต่อเนื่อง

"เดิม Centennial นั้นจะเน้นขายในประเทศ 70% เราก็เลยเข้าไปดูว่าจะเพิ่มการส่งออกได้หรือไม่ โดยจะลดการขายในประเทศ ให้เหลือ 50% เพราะราคาส่งออกขายจะสูงขึ้นและได้ประโยชน์กว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อดีข้อเสีย ถ้าขายไปต่างประเทศได้ราคาสูงก็จริงแต่ข้อเสียคือมีการล้างและการขนส่งเยอะ แต่ถ้าขายในประเทศต้นทุนขนส่งไม่มาก โดยในแผน 5 ปี( 54-58) บริษัทยังมุ่งเน้นธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก โดยงบลงทุนจะไปใช้ในอินโดนีเซีย และออสเตรเลียเป็นหลัก"นายชนินท์ กล่าว

นายชนินท์ กล่าวว่า ในปีนี้ สภาพภูมิอากาศผันผวน ส่งผลให้ราคาน้ำมัน, ถ่านหิน และพืชผลการเกษตรมีราคาผันผวนรุนแรงการบริหารจะยากขึ้น และบริษัทยังมีความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันที่มีแนวโน้มขาขึ้น เพราะปีก่อนบริษัทใช้เงินกู้มากในการซื้อกิจการในออสเตรเลีย พร้อมยอมรับว่ากังวลกับธุรกิจในจีน จากนโยบายของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องกับถ่านหิน ซึ่งบริษัทไม่รู้ว่าจะเดินหน้าอย่างไร ดังนั้นในปีนี้จะรอประเมินสถานการณ์เชิงกลยุทธก่อนจะดำเนินการต่อไป

แต่บริษัทยืนยัน ยังไม่มีแผนขายเหมืองเกาเหอ (ถือหุ้น 45%) กับเหมืองเหอปี้ (ถือหุ้น 40%)เนื่องจากมองว่าความเสี่ยงเรื่องใบอนุญาตน้อยกว่าเหมืองต้าหนิง (ถือหุ้น 56%) แต่ก็จะไม่เพิ่มการลงทุนในจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น