“ไทยเครดิต” ลั่นพร้อมประมูลชิงดำหุ้น “สินอุตสาหกรรม” หลังประเมินไม่กระทบกับแผนดำเนินธุรกิจ โดยตั้งเป้าโตที่ 30% เล็งปล่อยสินเชื่อใหม่อีกกว่า 10,000 ล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสถาบันการเงิน ยันไม่เดินตามรอยแบงก์พาณิชย์เต็มรูปแบบ ขณะที่ “ซิตี้ แอดวานซ์” บุกตลาดสินเชื่อบุคคล หวังกระทุ้งยอดโต 10-15% จากปีก่อน
วันนี้ (30 มี.ค.) นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมาการซื้อหุ้นของบริษัทเงินทุนสินอุตสาหกรรม (SICCO) จากธนาคารไทยพาณิชย์ จะไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ แต่ก็ไม่กระทบกับแผนธุรกิจในปีนี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจหลักที่ได้วางไว้ อย่างไรก็ตาม ทิศทางหลังจากนี้ จะต้องรอดูเงื่อนไขของธนาคารไทยพาณิชย์ที่จะมีการเปิดประมูลหุ้นของ บง.สินอุตสาหกรรม อีกครั้ง ว่า จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการประมูลหรือไม่ ส่วนเรื่องราคาเชื่อว่าจะไม่น่าเป็นประเด็นสำหรับการซื้อขาย
สำหรับในปีนี้ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อจะโตถึง 30.8% หรือเพิ่มขึ้นจาก 13,993 ล้านบาท ในสิ้นปีที่ผ่านมาเป็น 18,303 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้ โดยเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่ 1 หมื่นล้านบาท และขายฐานเงินฝากอีก 31% จาก 14,680 ล้านบาท ในสิ้นปี 2553 เป็น 19,236 ล้านบาท โดยจะเน้นกลุ่มที่เข้าไม่ถึงสถาบันการเงินเช่นกลุ่มผู้ที่ไม่มีหลักประกันสังคมในกลุ่มนี้มีประมาณ 24.3 ล้านคน ทั้งจากภาคบริการและภาคผลิต
“ธนาคารพบว่า ผู้ที่เดินเข้ามาหาเราประสบปัญหาหนี้นอกระบบ ติดจำนอง ขายฝาก บางรายเข้าไม่ถึงสถาบันการเงิน หรือต้องปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งธนาคารเล็งเห็นถึงศักยภาพทางการเงินและได้พิจารณาอนุมัติเป็นรายๆ ที่มั่นใจว่าผ่อนชำระหนี้ได้ ซึ่งเราพบว่าลูกค้ามีการชำระหนี้ที่ดีเรื่อยมา จึงเกิดสินเชื่อพลิกชีวิตคนค้าขายขึ้น เพื่อสนับสนุนการสร้างอาชีพโดยสินเชื่อเพื่อพลิกชีวิตคนค้าขายนั้น ลูกค้าสามารถนำบ้าน ที่ดิน ทอง รถมอเตอร์ไซค์ หรือเครื่องมือทำมาหากินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท”
นายมงคล ยังกล่าวถึงการหาพันธมิตรให้ธุรกิจ ว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีผู้แสดงความสนใจเข้ามาร่วมธุรกิจกับธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเข้ามาเสริมด้านเทคโนโลยีและเพิ่มศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะเลื่อนฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ แม้ว่าปัจจุบันธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อย จะเพิ่มทุนและยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบแล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน การทำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์นั้น ธนาคารต้องพิจารณาในเรื่องของความเสี่ยงด้วย เนื่องจากต้องดูแลผู้ฝากเงินด้วย
นายมงคล กล่าวต่อว่า ในปีที่ 2553 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 52.2 ล้านบาท สินเชื่อขายตัว 52% มีสัดส่วนของหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) 1.77% ซิตี้แอดวานซ์รุกสินเชื่อรายย่อย
ขณะที่ นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท ซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) กล่าว่า ในปีที่ผ่านมา ซิตี้แอดวานซ์ สามารถขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 3.1% สวนทางกับภาพรวมตลาดที่เติบโตลดลง 11.5% โดยยอดสินเชื่อคงค้างทั้งระบบในสิ้นปี 2553 อยู่ที่ 1.87 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตไว้สูงถึง 0-15% แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจก็ตามเนื่องจากเชื่อว่าการขยายตัวของธุรกิจยังคงมีอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางและระดับบนเป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เลือกเฉพาะสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน โดยในปีนี้บริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 5 ตัว คือ สินเชื่อเพื่อการแพทย์และความงาม สินเชื่อเพื่อซ่อมแซมบ้าน สินเชื่อเพื่อการศึกษา สินเชื่อเพื่อการพักผ่อนและท่องเที่ยว รวมถึงสินเชื่อเพื่อการแต่งงาน
โดยสินเชื่อทั้ง 5 ประเภทมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 19-28% ขึนอยู่กับวงเงินที่ได้รับ โดยวงเงินขั้นต่ำอยู่ที่ 1 แสนบาทต่อรายและสูงสุดที่ 5 แสนบาทต่อราย
ส่วนแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาสแรกอาจจะยังทรงตัวเนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลที่ลูกค้าเพิ่งได้รับโบนัสมาเมื่อปลายปี ทำให้ความต้องการสินเชื่อยังน้อย แต่เชื่อว่า ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ความต้องการจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอม ซึ่งสินเชื่อทั้ง 5 ประเภทจะเป็นสินเชื่อหลักที่บริษัทจะมุ่งเน้นในการทำตลาดสินเชื่อบุคคลปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังมีสินเชื่อที่เป็นการรวมภาระหนี้ของลูกค้าที่มีอยู่หลายสถาบันการเงิน (debt consolidated) ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 60% ของสินเชื่อรวมในขณะนี้
“สินเชื่อทั้ง 5 ประเภทมาจากการสัมภาษณ์ลูกค้าทางออนไลน์ จากนั้นธนาคารก็ไปหาพันธมิตรในแต่ละธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าได้ส่วนลดไปด้วย เช่น เวดดิ้งสตูดิโอต่างๆ ซึ่งในช่วงที่เหลือบริษัทจะขยายพันธมิตรออกไปให้ครอบคลุมมากขึ้นและมีแผนเพิ่มสาขาเพิ่มอีก 5-7 แห่ง”
