ปิดตลาดหลักทรัพย์ไทย ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,036.26 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.32% ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยทั้งในและนอกไม่เอื้อ แนะให้รอลุ้นทิศทางดอกเบี้ยจีนมีผลต่อดัชนีหุ้นหรือไม่ บ่ายคาดแกว่งแคบให้กรอบที่ 1,030-1,040 จุด
วันนี้ (29 มี.ค.) ปิดตลาดหลักทรัพย์ไทย ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,036.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.32 จุด(+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 10,642.39 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบแนวเดียวกับตลาดภูมิภาค เหตุปัจจัยใน-นอกประเทศยังไม่เอื้อ ทั้งตลาดสหรัฐฯแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดี แต่ราคาหุ้นถูกเขย่า, ตลาดยุโรปมีบางประเทศที่มีข่าวว่าต้องการเงินทุนมากกว่าเดิม, รอดูทิศทางดอกเบี้ยของจีนและปัญหานิวเคลียร์ในญี่ปุ่น แต่หลายตลาดก็มีการทำ window dressing ช่วงบ่ายตลาดคงแกว่งแคบ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,030-1,040 จุด
โดยบรรยากาศการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,036.64 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,032.23 จุด ซึ่งหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 679.69 ล้านบาท ปิดที่ 349.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 562.94 ล้านบาท ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 508.42 ล้านบาท ปิดที่ 758.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 495.74 ล้านบาท ปิดที่ 2.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท และ PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 432.74 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้าน นายอภิสิทธิ์ ลิมศุภนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่แกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศเวลานี้อยู่ในลักษณะของการแกว่ง อย่างตลาดสหรัฐฯ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาค่อนข้างดี แต่จะเห็นได้ว่าราคาหุ้นถูกเขย่าทำให้ Sentiment ไม่ได้ดีอย่างเด่นชัด
ส่วนตลาดยุโรปมีบางประเทศที่มีข่าวออกมาว่า มีความต้องการเงินทุนมากกว่าเดิมที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังต้องรอดุทิศทางอัตราดอกเบี้ยของจีนด้วย และปัญหานิวเคลียร์ในญี่ปุ่นก็ต้องรอดูว่าจะสิ้นสุดอย่างไร เพราะล่าสุด เห็นว่า ขั้นตอนในการฟื้นฟูฯอาจจะต้องมีการปรับขึ้นภาษีฯ แต่ ณ ขณะนี้ภาพก็ยังไม่ชัดเจน ตลาดโดยรวมจึงมีลักษณะของการแกว่ง
อย่างไรก็ดี หลายตลาดฯช่วงนี้ก็มีการทำ Window dressing กันด้วย แม้แต่ตลาดหุ้นไทย ส่วนปัจจัยการเมืองไทยเวลานี้ยังไม่มีอะไร คงต้องรอดูเดือนหน้า ส่วนประเด็นของการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เป็นเรื่องที่ต้องรอดู แม้ว่าจะไม่ได้มีผลกระทบต่อตลาดมาก
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตลาดคงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งแคบ โดยมีกรอบการแกว่งที่ 1,030-1,040 จุด
