กมธ.เจบีซี ยันโหวตบันทึก 3 ฉบับได้เลย ไม่ต้องรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อ้างไม่มีผล ขู่ไม่ทำทำเขมรยกคุยพหุภาคีได้ ด้าน “นิพนธ์” สวนกลับควรรอศาลก่อน ขณะที่ “มาร์ค” หยอกแรง!! “วอลปเปอร์” ตัวปัญหา
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับ กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาบันทึกการประชุมเจบีซีในวันนี้ (29 มี.ค.) สามารถดำเนินการได้โดยที่ไม่ต้องรอผลการพิจารณาของศาสรัฐธรรมนูญว่าเจบีซี 3 ฉบับนั้นเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 แห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลใดๆ ต่อการลงมติบันทึกผลการประชุมเจบีซี ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าเจบีซี 3 ฉบับเข้าข่ายหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 การประชุมรัฐสภาเท่ากับว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่สมาชิกรัฐสภาต้องให้ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญกำหนด แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ใช่หนังสือสัญญา การประชุมร่วมครั้งนี้เท่ากับเป็นความสร้างความรอบคอบให้เกิดขึ้น
“ผมมองว่าหากที่ประชุมรัฐสภาไม่ลงมติรับรองบันทึกการประชุมเจบีซี อาจจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ประเทศกัมพูชา ยกระดับการเจรจาไปสู่ระดับพหุภาคี โดยใช้ข้ออ้างว่า การพยายามเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ ในระดับทวิภาคีล้มเหลวเพราะรัฐสภาไทยไม่ให้การรับรอง” นายศิริโชคกล่าว
ด้าน นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าทางศาลรัฐธรรมนูญได้ทำหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา โดยแจ้งว่ากรณีที่สมาชิกรัฐสภายื่นให้ตีความเจบีซี 3 ฉบับนั้น เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ส่วนตัวมองว่าควรชะลอการพิจารณาเจบีซีทั้ง 3 ฉบับออกไปก่อน เพื่อเป็นการเคารพต่อศาลรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับนายชัย
ทั้งนี้ ระหว่างที่สื่อมวลชนยืนสัมภาษณ์นายศิริโชคที่บริเวณหน้าห้องประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อยู่นั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินออกมาและทักกับนายศิริโชค โดยกล่าวเชิงล้อเล่นว่า “นี่แหละตัวสร้างปัญหา” จากนั้นทั้งสองก็เดินคู่กันเข้าห้องประชุมต่อไป
