xs
xsm
sm
md
lg

ดัมป์ภาษีนิติบุคคลเหลือ 18% “กรณ์” จีบต่างชาติลงทุน-ติดปีกแข่งอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“กรณ์” ยาหอมนักลงทุนเตรียมลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 18% เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภูมิภาค มุ่งสู่การแข่งขันอย่างเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ยันนโยบายรัฐจะยังคงขับเคลื่อน 4 เป้าหมายหลัก การศึกษา-โครงสร้างพื้นฐาน-มุ่งสู่เวทีโลก-สร้างระบบการแข่งขันที่เป็นธรรม

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวในงาน “ไทยแลนด์โฟกัส 2011” ว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคล เพื่อกระตุ้นการลงทุน เนื่องจากอัตราภาษีนิติบุคคลที่จัดเก็บจริงอยู่ที่ระดับ 18-19% เท่านั้น จากอัตราที่จัดเก็บในปัจจุบัน 30% จากสิทธิลดหย่อนประเภทต่างๆ ที่มี แต่จะต้องไม่กระทบกับภาระการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในระยะยาวด้วย ส่วนนโยบายของรัฐบาลจะยังคงมุ่งเน้น 4 ประเด็น คือ การศึกษา การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การเปิดตลาดไทยสู่เวทีโลก และการสร้างระบบการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว

“นักลงทุนมีคำถามที่หลากหลาย สะท้อนถึงความสนใจต่อนโยบายเศรษฐกิจและเป้าหมายระยะยาวว่า รัฐบาลมีแผนที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไร ซึ่งทั้ง 4 ประเด็น เป็นสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญมาก และจะเป็นสิ่งที่ช่วยตอบโจทย์เศรษฐกิจของประเทศไทยในระยะต่อไป" นายกรณ์ กล่าว

โดยเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นายกรณ์ ได้แต่งตั้งให้ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง เป็นประธานกรรมการศึกษาการปรับปรุงโครงสร้างภาษีของประเทศทั้งระบบโดยมีนายมั่น พัธโนทัย รมช.คลังเป็นรองประธาน เนื่องจากระบบการจัดเก็บภาษีในปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมหลายรายการ นอกจากนี้ ยังไม่สนับสนุนศักยภาพการแข่งขันของประเทศเพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2535 ที่กรมสรรพากรได้ปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีจากภาษีการค้าเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มก็ไม่ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่อีกเลย การกำหนดกรอบการทำงานในครั้งนี้ถือว่ามีความจำเป็นและต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน หลังจากนั้น ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาล หรือใครจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็จำเป็นต้องทำเรื่องนี้

“กรอบเวลาการร่างพิมพ์เขียวปฏิรูปภาษี 2 เดือน ถือว่าอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม เพราะทุกหน่วยงานที่มาร่วมหารือทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา ต่างมีผลการศึกษาทางวิชาการสมบูรณ์มาก แต่เป็นการดูในมุมของตัวเอง ดังนั้น การทำงานในครั้งนี้จะเป็นการนำข้อมูลทั้งหมดมา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีในภาพรวมทั้งหมด เพราะหากไม่ทำในวันนี้อนาคตคนไทยทั้งประเทศจะลำบากมากขึ้น” นายประดิษฐ์ กล่าว

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการจัดเก็บและอัตราการจัดเก็บที่จะเกิดขึ้นนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าภาษีประเภทใดควรจัดเก็บในอัตราเท่าไร ต้องรอให้โครงสร้างภาพรวมทั้งหมดดำเนินการเสร็จสิ้นก่อนจึงจะสามารถระบุอัตราการจัดเก็บลงไปได้ว่าภาษีแต่ละชนิดจะจัดเก็บเท่าไร เพราะแน่นอนว่าหากมีการปรับลดภาษีตัวหนึ่งก็ต้องมีการเพิ่มภาษีอีกตัว แต่อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงโครงสร้างภาษีในครั้งนี้จะเกิดความเป็นธรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น