xs
xsm
sm
md
lg

LTV ฉุดคอนโดดันบ้านพุ่ง ฟันธงทาวน์เฮาส์ 1-1.5 ล้านบาท มาแรง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัดสัญญาณผลการจัดงาน"มหกรรมบ้านและคอนโด " ครั้งที่ 24 ยอดเข้าชมสูงกว่า 1 แสนราย ยอดซื้อขายสะพัด 2,800 ล้านบาท ตัวเลขขอสินเชื่อ 12,000 ล้านบาท ชี้ยอดขายบ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงสุด 40% คอนโดฯหลุดแชมป์ หลังลูกค้าเจอกฎเกณฑ์LTV คาดผู้ประกอบการระมัดระวังเปิดอาคารชุด ฟันธงทาวน์เฮาส์ 1-1.5 ล้านบาท มาแรง ตอบสนองกำลังซื้อ จับตาคอนโด หลุดดาวน์ เพิ่มอุณหภูมิการแข่งขันสูงขึ้น

นายรุ่งรัตน์ ลิ่มทองแท่ง รองเลขาธิการสมาคมอาคารชุดไทย ในฐานะประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค.ที่ผ่านมา รวม 4 วัน ว่า การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมงานกับครั้งก่อน มียอดผู้ลงทะเบียนผู้เข้าชมงานมากกว่า 1 แสนราย ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ มียอดซื้อขายภายในงาน 2,800 ล้านบาท และจะยังคงมียอดจองอย่างต่อเนื่องหลังจบงาน ตามคาดหมายที่มีผู้สนใจเข้าชมงานกันอย่างคึกคัก น่าจะเป็นเพราะภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 24 ได้มีการรวบรวมกว่า 600 โครงการมาไว้ในงาน

นอกจากนี้ สถาบันการเงินที่มาร่วมออกบูธมากกว่า 15 สถาบัน ต่างก็แข่งขันกันจัดแคมเปญด้านสินเชื่อคงที่อัตราดอกเบี้ยในอัตราพิเศษสุด และสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น และมีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแรงกระตุ้นจากแคมเปญและโปรโมชันพิเศษสุด ที่แต่ละโครงการต่างนำมาเป็นกลยุทธ์ในครั้งนี้ ทั้งส่วนลดเงินสด ของแถม รายการส่ง เสริมการขายของแต่ละโครงการ รวมถึงโปรโมชันจากสถาบันการเงินต่างๆ จึงสร้างบรรยากาศ และเรียกความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างมาก

สำหรับภาพรวมของยอดซื้อที่อยู่อาศัยคิดตามมูลค่าของสินค้าอันดับหนึ่งได้แก่ บ้านเดี่ยว 40% คอนโดมีเนียม 32% ทาวเฮาส์ 22% บ้านแฝด 4% และรีสอร์ท 2% ตามลำดับ อยู่ในทำเลที่ตั้งทั่วทุกเขตของกรุงเทพและปริมณฑล

สำหรับยอดการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายในงาน ผลจากการสำรวจจากสถาบันการเงินต่างๆ มียอดการขอสินเชื่อรวมประมาณกว่า12,000 ล้านบาท และมีให้ผู้สนใจใช้บริการ Post Finance Center ซึ่งเป็นจุดบริการด้านการขอสินเชื่อบ้านที่ผู้เข้าชมงานให้ข้อมูลเพียงจุดเดียว

นายรุ่งรัตน์ อธิบายเพิ่มเติมถึงยอดซื้อคอนโดฯมีสัดส่วนไม่สูง เนื่องจากคอนโดฯที่ผู้ประกอบการกว่า 60% มาออกบูธ จะเป็นห้องชุดพร้อมอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อจะต้องมีการวางเงินดาวน์ 10% ตามเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ออกหลักเกณฑ์ อัตราส่วนการให้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเทียบกับมูลค่าบ้าน หรือ LTV ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูง ขณะที่ระดับราคาคอนโดฯที่มานำเสนอขายจะอยู่ระหว่าง 1-3 ล้านบาท ซึ่งผลของLTV ค่อนข้างมีน้ำหนักต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้ากลุ่มนี้ค่อนข้างมาก ขณะที่คอนโดฯใหม่ มีปริมาณที่มาออกบูธจำนวนไม่มาก

" ผลสะท้อนของงานมหกรรมบ้านฯที่ออกมา น่าจะทำให้ผู้ประกอบการที่อยู่ระหว่างการขายคอนโดฯพร้อมอยู่ ปรับแผนการทำตลาด โดยอาจจะนำงบดังกล่าวมาเพิ่มเป็นส่วนลดที่มากขึ้นให้แก่ลูกค้า เพื่อลดภาระและกระตุ้นการซื้อคอนโดฯเร็วขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มที่ซื้อคอนโดฯระดับล้านต้นๆ หากมีวินัยในการออมก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ด้วยปัจจัยหลายๆด้านแล้ว ก็ลำบาก ต่างกับคอนโดฯสั่งสร้างที่เริ่มเปิดตัว จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี ส่วนนี้ ลูกค้าที่ผ่อนดาวน์จะสามารถสร้างวินัยการออมได้ "นายรุ่งรัตน์กล่าว

ปี54ระมัดระวังเปิดคอนโดฯ

นายรุ่งรัตน์ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดคอนโดฯในปี 2554 คาดว่ายังคงมีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง เพียงแต่จะเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก 1. สินค้าที่อยู่ในตลาดยังคงมีปริมาณที่มาก 2. กฎเกณฑ์จากฝ่ายกำกับ และที่สำคัญวัสดุก่อสร้างมีราคาแพงและมีความผันผวนค่อนข้างมาก ไม่มีความแน่นอน เนื่องจากราคาน้ำมันจะขยับไปถึงระดับใด

ฟันธงทาวน์เฮาส์1-1.5ล้านมาแรง

ในส่วนของทิศทางตลาดโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ จากตัวเลขรวมของมูลค่าขายจากงานมหกรรมบ้านฯครั้งนี้ ที่มีสัดส่วน 66% นั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า กำลังซื้อขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับจากการเดินสำรวจในงาน พบว่า ทรัพย์สินรอการขาย(เอ็นพีเอ)ของสถาบันการเงินขายได้ดี ส่งผลให้ตัวเลขรวมของโครงการแนวราบสูงขึ้น

" ที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ราคา 2 ล้านต้นๆ ถึง 3 ล้านบาทกว่า เป็นตลาดกลุ่มใหญ่ที่มีความต้องการซื้อสูง และโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ 1 ล้านต้นๆ จนถึง 1.5 ล้านบาท ในงานมียอดขายค่อนข้างดี และคิดว่าจะกลับมาแรงในปีนี้เช่นกัน โดยภาพรวมของทำเลที่ลูกค้าให้ความสนใจ อย่าง สุขุมตอนปลาย บางนา ประชาอุทิศ ปทุมธานี และโซนนนทบุรี "

อนึ่ง ในวันนี้(16 มี.ค.) บริษัท เน็กซัล พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เตรียมจัดงานแถลงข่าว "งานรวมคอนโด หลุดดาวน์ ไม่ถูกจริงอย่าซื้อ " เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าบางกลุ่มประสบปัญหาทางด้านการเงิน จนต้องทิ้งดาวน์ ทำให้ผู้ประกอบการต้องนำห้องชุดกลับมาขายใหม่ (รีเซล) กลายเป็นต้นทุนทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น