โรงกลั่นบางจากฯกลับมาเดินเครื่องหน่วยแคร็กกิ้งยูนิตอีกครั้งวันนี้ หลังต้องหยุดไปจากเหตุไฟไหม้ท่ออุปกรณ์ควบคุมในหน่วยดังกล่าวและเลื่อนเวลาปิดซ่อมบำรุงใหญ่เร็วขึ้น เผยไตรมาส 1/54 มีกำไรสุทธิใกล้เคียงช่วงเดียวกันของปีก่อน เหตุ GRM สูงกว่า 7 เหรียญ/บาร์เรล ชดเชยปริมาณการผลิตที่ลดลงไปในช่วงหยุดซ่อมบำรุง
นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในวันนี้ (8 มี.ค.) โรงกลั่นบางจากจะกลับมาผลิตได้ครบทุกหน่วยผลิต หลังจากได้มีการเลื่อนปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นน้ำมันดิบและหน่วยอื่นๆเร็วขึ้น นับจากการเกิดไฟไหม้ท่อของอุปกรณ์ควบคุมในหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซล หรือแคร็กกิ้งยูนิต (HCU ) ทำให้บริษัทต้องหยุดหน่วยPQIนับตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. เป็นต้นมา
ทั้งนี้ บริษัทฯปรับเปลี่ยนท่อของอุปกรณ์ควบคุมในหน่วยแคร็กกิ้งยูนิตใหม่หมด รวมทั้งปรับเปลี่ยนตัวไฮโดรแครกเกอร์ แคตาลิส ทำให้โรงกลั่นบางจากสามารถกลั่นน้ำมันอากาศยาน(JET) เพิ่มขึ้นจาก 14%เป็น 24% และลดการผลิตน้ำมันดีเซลจากเดิม 50%ลงเหลือ 40%ของกำลังการกลั่นรวม ทำให้บริษัทฯไม่ต้องส่งออกดีเซลที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าขนส่ง1-2 เหรียญ/บาร์เรล และไม่ต้องซื้อน้ำมันอากาศยานมาขาย แต่สามารถผลิตได้เอง ทำให้ค่าการกลั่น (GRM) ดีขึ้นจากเดิมประมาณ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งปัจจุบันโรงกลั่นบางจากมีค่าการกลั่นเฉลี่ย 6 -7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“เดิมบางจากมีแผนจะหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ทุก 2ปีเป็นเวลา 38-40 วันแต่จากการเกิดเหตุไฟไหม้ทำให้บริษัทเลื่อนการซ่อมบำรุงใหญ่เร็วขึ้นและใช้เวลาการซ่อมบำรุงนานกว่าเดิมเป็น 58 วันโดยวันนี้โรงกลั่นจะกลับมาผลิตได้ครบทุกหน่วยอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาโรงกลั่นหน่วย2-3 เดินเครื่องกลั่นอยู่แต่ไม่สามารถนำน้ำมันเตามาแครกเป็นน้ำมันดีเซลได้ “
สำหรับมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ดังกล่าว บริษัทฯยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากได้รับการจ่ายชดเชยจากบริษัทประกัน 100-200 ล้านบาท คงมีเพียงค่าใช้จ่ายที่บริษัทอาจต้องรับภาระเอง 20-30 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกนี้จะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นายสุรชัย กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2554 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงหรือลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากช่วงไตรมาส 1/2553 ที่มีกำไรสุทธิ 782 ล้านบาท เนื่องจาก GRMในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7 เหรียญกว่า/บาร์เรล ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีGRM 5 เหรียญกว่า/บาร์เรล ชดเชยปริมาณการผลิตที่หายไปจากการปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับโรงกลั่นอื่นๆพบว่าโรงกลั่นบางจากมี GRM ต่ำกว่า เพราะโรงกลั่นอื่นไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง
สำหรับปริมาณการขายน้ำมันพบว่ายอดขายไมได้ปรับลดลง เนื่องจากบริษัทฯมีการเก็บสำรองน้ำมันให้เพียงพอกับการจำหน่ายในช่วงที่หยุดซ่อมบำรุง ซึ่งบริษัทวางแผนได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่มีบางสินค้าเช่นน้ำมันอากาศยานที่ต้องซื้อมาจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าการกลั่นจะดีอยู่ระดับ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 2/2554 รวมทั้งบริษัทฯมีแผนจะกลั่นน้ำมันเพิ่มเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.นี้ที่คาดว่าจะกลั่นอยู่8.1 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้ปีนี้บางจากกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 9.2 หมื่นบาร์เรล/วัน และตั้งเป้าหมายปีนี้มีEBITDA 5.5-6 พันล้านบาท
นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในวันนี้ (8 มี.ค.) โรงกลั่นบางจากจะกลับมาผลิตได้ครบทุกหน่วยผลิต หลังจากได้มีการเลื่อนปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นน้ำมันดิบและหน่วยอื่นๆเร็วขึ้น นับจากการเกิดไฟไหม้ท่อของอุปกรณ์ควบคุมในหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซล หรือแคร็กกิ้งยูนิต (HCU ) ทำให้บริษัทต้องหยุดหน่วยPQIนับตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. เป็นต้นมา
ทั้งนี้ บริษัทฯปรับเปลี่ยนท่อของอุปกรณ์ควบคุมในหน่วยแคร็กกิ้งยูนิตใหม่หมด รวมทั้งปรับเปลี่ยนตัวไฮโดรแครกเกอร์ แคตาลิส ทำให้โรงกลั่นบางจากสามารถกลั่นน้ำมันอากาศยาน(JET) เพิ่มขึ้นจาก 14%เป็น 24% และลดการผลิตน้ำมันดีเซลจากเดิม 50%ลงเหลือ 40%ของกำลังการกลั่นรวม ทำให้บริษัทฯไม่ต้องส่งออกดีเซลที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าขนส่ง1-2 เหรียญ/บาร์เรล และไม่ต้องซื้อน้ำมันอากาศยานมาขาย แต่สามารถผลิตได้เอง ทำให้ค่าการกลั่น (GRM) ดีขึ้นจากเดิมประมาณ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งปัจจุบันโรงกลั่นบางจากมีค่าการกลั่นเฉลี่ย 6 -7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“เดิมบางจากมีแผนจะหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ทุก 2ปีเป็นเวลา 38-40 วันแต่จากการเกิดเหตุไฟไหม้ทำให้บริษัทเลื่อนการซ่อมบำรุงใหญ่เร็วขึ้นและใช้เวลาการซ่อมบำรุงนานกว่าเดิมเป็น 58 วันโดยวันนี้โรงกลั่นจะกลับมาผลิตได้ครบทุกหน่วยอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาโรงกลั่นหน่วย2-3 เดินเครื่องกลั่นอยู่แต่ไม่สามารถนำน้ำมันเตามาแครกเป็นน้ำมันดีเซลได้ “
สำหรับมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ดังกล่าว บริษัทฯยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากได้รับการจ่ายชดเชยจากบริษัทประกัน 100-200 ล้านบาท คงมีเพียงค่าใช้จ่ายที่บริษัทอาจต้องรับภาระเอง 20-30 ล้านบาท ซึ่งไตรมาสแรกนี้จะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
นายสุรชัย กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2554 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงหรือลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบจากช่วงไตรมาส 1/2553 ที่มีกำไรสุทธิ 782 ล้านบาท เนื่องจาก GRMในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7 เหรียญกว่า/บาร์เรล ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีGRM 5 เหรียญกว่า/บาร์เรล ชดเชยปริมาณการผลิตที่หายไปจากการปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับโรงกลั่นอื่นๆพบว่าโรงกลั่นบางจากมี GRM ต่ำกว่า เพราะโรงกลั่นอื่นไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง
สำหรับปริมาณการขายน้ำมันพบว่ายอดขายไมได้ปรับลดลง เนื่องจากบริษัทฯมีการเก็บสำรองน้ำมันให้เพียงพอกับการจำหน่ายในช่วงที่หยุดซ่อมบำรุง ซึ่งบริษัทวางแผนได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่มีบางสินค้าเช่นน้ำมันอากาศยานที่ต้องซื้อมาจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าการกลั่นจะดีอยู่ระดับ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 2/2554 รวมทั้งบริษัทฯมีแผนจะกลั่นน้ำมันเพิ่มเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.นี้ที่คาดว่าจะกลั่นอยู่8.1 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้ปีนี้บางจากกลั่นน้ำมันเฉลี่ย 9.2 หมื่นบาร์เรล/วัน และตั้งเป้าหมายปีนี้มีEBITDA 5.5-6 พันล้านบาท