หวิดระทึก..เกิดเหตุไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ภายในบริษัทบางจากปิโตรเลียม ซอยสุขุมวิท 64 ส่งเสียงดังคล้ายระเบิดกลุ่มควันพวยพุ่งจำนวนมาก จนท.ต้องระดมดับเพลิงก่อนใช้เวลาเพียง 30 นาทีเพลิงจึงสงบ ขณะที่ “บางจาก” แถลงแจงเหตุไฟไหม้จากท่อควบคุมน้ำมันเตารั่ว ส่วนค่าเสียหายยังไม่ได้ประเมิน ยันกลิ่นแก๊สไม่มีผลต่อร่างกาย พร้อมส่ง จนท.ออกทำความเข้าใจ ปชช.ในละแวกใกล้เคียง ด้านผู้พักอาศัยใกล้ที่เกิดเหตุ เผยรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ต่างพากันหนีตายอย่างอลหม่าน
วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ทัศชัย ต้นปาน พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เลขที่ 210 หมู่ 1 ซอยสุขุมวิท 64 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์สยาม มีขันทอง ผกก.สน.พระโขนง และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร 5 คัน
ที่เกิดเหตุบริเวณภายในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ใกล้กับทางรถไฟสายเก่า พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากโรงกลั่นจำนวนมาก และมีเสียงดังคล้ายระเบิดเป็นระยะ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของโรงกลั่นไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกเข้าไป โดยใช้รถดับเพลิงของทางบริษัทดับไฟ แต่ภายหลังก็ได้อนุญาตให้เพียงรถน้ำเข้าไปได้เพียง 5 คัน พร้อมกับเร่งอพยพเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่อยู่ภายในโรงกลั่นออกมาด้านนอก เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ต่อมาเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 1 อาคาร 4 บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียมฯ ได้ออกมาแถลงข่าวถึงเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อเวลา 07.00 น.ได้เกิดไฟไหม้ที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซล กำลังผลิต 25,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งอยู่ภายในโรงกลั่นน้ำมันของบางจาก แต่เจ้าหน้าที่ของโรงกลั่นน้ำมันบางจากสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากท่อของอุปกรณ์ควบคุมในหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตาเป็นน้ำมันดีเซลรั่ว จึงทำให้เกิดการติดไฟขึ้น ซึ่งสารที่รั่วไหลออกมาเป็นแก๊สไฮโดรเจนทำให้ติดไฟได้ง่าย
ดร.อนุสรณ์กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และหน่วยกลั่นอื่นก็ไม่ได้รับความเสียหาย สามารถเดินเครื่องได้ตามปกติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุและประเมินมูลค่าความเสียหายของอุปกรณ์ นอกจากนี้ เหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบโรงกลั่นน้ำมันบางจาก และไม่ส่งผลกระทบต่อการออกน้ำมันไปยังผู้บริโภค เพราะมีการกักตุนน้ำมันไว้ใช้จำนวน 5 ล้านบาร์เรล หรือ 800 ล้านลิตร ซึ่งสามารถใช้ได้ถึง 2 เดือน ขณะนี้บริเวณจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังใช้น้ำฉีดหล่อเลี้ยงไว้ โดยหลังจากที่อุณหภูมิภายในโรงกลั่นลดลงแล้วก็จะเข้าไปตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
“สำหรับวิธีการที่ทางโรงกลั่นปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุขึ้น ทางโรงกลั่นจะทำการหยุดการทำงานของทุกหน่วย และมีการระบายอากาศไล่แก็สออกทางปล่องที่สูงขึ้นไปประมาณ 10 เมตร อาจจะส่งกลิ่นรบกวนประชาชนเล็กน้อย แต่ยืนยันว่าไม่มีผลเสียต่อร่างกายอย่างแน่นอน สำหรับการดูแลประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ทางบริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกไปดูแล เพื่อสร้างความเข้าใจและมั่นใจให้แก่้ชุมชน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการอบรมและมีความรู้ในการปฏิบัติงานเป็นอย่างดี เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็สามารถควบคุมสถานการณ์และใช้เวลาดับเพลิงได้ในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้หลังจากที่โรงกลั่นเปิดมาได้ 2 ปีก็เกิดเหตุการณ์เดียวกัน แต่ไม่รุนแรงเหมือนวันนี้ อย่างไรก็ตาม ทางโรงกลั่นน้ำมันบางจากมีกำหนดที่จะปิดปรับปรุงในวันที่ 24 ก.พ.นี้อยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็อาจจะต้องปิดซ่อมก่อนกำหนด” ดร.อนุสรณ์กล่าว
ด้าน น.ส.แววตา เจริญสุข อายุ 42 ปี ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในเอื้ออมรสุข คอนโดมิเนียม ซอยสุขุมวิท กล่าวว่า ตนพักอยู่ชั้น 9 อยู่มา 7 ปีแล้ว ซึ่งติดกับคลังเก็บน้ำมัน ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเตรียมตัวจะส่งลูกไปโรงเรียน ช่วงเวลา 07.00 น.ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น จึงเปิดหน้าต่างออกไปดูก็พบว่ามีเปลวไฟและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากท่อของโรงกลั่นภายในบริษัทบางจากฯ ตนจึงรีบพาลูกหนีออกจากห้องและตะโกนเรียกเพื่อนที่พักอยู่ภายในคอนโดฯ ให้รีบหนี เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งทุกคนก็ต่างพากันวิ่งหลบหนีอย่างชุลมุน แม้กระทั่งคนที่มีเรื่องทะเลาะกันก็ยังพากันจูงมือหนี ส่วนบางคนที่ยังไม่ตื่นนอน พอได้ยินเสียงร้องก็วิ่งออกมาในสภาพทั้งชุดนอน โดยไม่ได้นำสิ่งของใดๆ ติดตัวมาด้วย หลังเกิดเหตุตนก็ตำหนิสามีว่าทำไมจึงมาซื้อคอนโดฯ ที่ติดกับคลังน้ำมัน ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เมื่อเห็นวันนี้แล้วรู้สึกกลัวมาก
