"SINGER" คาดผลประกอบการปีนี้โตขึ้นกว่าปี 53 โดยเน้นเพิ่มสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด หวังกระทุ้งยอดครึ่งปีแรก พร้อมชูแคมเปญล่อใจลูกค้า ทุ่มงบ 150 ล้านบาท ปูพรมขยายสาขา เชื่อในปีนี้ล้างหนี้ขาดทุนสะสมได้หมด
วันนี้ (24 ก.พ.) นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิงเกอร์ (ประเทศไทย) (SINGER) กล่าวว่า บริษัทคาดผลประกอบการในปี 54 จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 53 รายได้สูงขึ้นกว่า 15% และกำไรสุทธิเติบโตมากกว่า 100% เนื่องจากบริษัทเน้นการจำหน่ายสินค้ามูลค่าสูง และมีการเปิดตัวสินค้า-บริการใหม่เพิ่มขึ้น โดยเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งแบบลูกค้าครัวเรือนและร้านค้า
ทั้งนี้ ในปี 53 ทำรายได้เกินกว่า 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 52 ที่มีรายได้ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่กำไรสุทธิปี 53 น่าจะเติบโตเกินเป้าหมายที่ 60 ล้านบาท จากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงได้เตรียมแผนล้าง
ขาดทุนสะสมในปีนี้
สำหรับสินค้าที่ทำรายได้หลักให้แก่บริษัท คือ เครื่องปรับอากาศ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 40,000 เครื่อง จากปี 53 ที่มียอดขาย 20,000 เครื่อง รองลงมา เป็นสินค้า commercial product ประเภทตู้แช่ ทั้งตู้แช่แข็ง ตู้แช่เย็น ตู้แช่ไอศครีม ตู้แช่ไวน์ และตู้แช่เบียร์ ซึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายถึง 15,000 เครื่อง และสินค้าที่เพิ่งได้เปิดตัวเมื่อกลางปี 53 คือ ตู้เติมเงินมือถือ ที่มียอดขาย 5,000 เครื่อง
นายบุญยง กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยในช่วงไตรมาส 1/54 จะมีการออกสินค้าทีวีแซทเทิลไลท์ที่มีรีเซิร์ฟเวอร์ฝังในตัวทีวี สามารถเชื่อมต่อกับจานดาวเทียมได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องแยกต่างหาก และเครื่องซักผ้าระบบอัตโนมัติแบบถังเดียว ซึ่งเป็นการออกแบบสินค้าให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้า
"ปีนี้เราจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกไตรมาส โดยเฉพาะแอร์ จะมีการต่อยอดส่งเสริมการขาย จากปีก่อนที่ให้ผ่อนวันละ 30 บาท ปีนี้จะเพิ่มให้มีการจับสลากชิงโชคด้วย ซึ่งมั่นใจว่าจะกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้า"นายบุญยง กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ในไตรมาส 2/54 เป็นสินเชื่อเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซ LPG/NGV ทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประสานงานกับบริษัทชั้นนำผู้ติดตั้งแก๊ส LPG/NGV ในการสนับสนุนสินเชื่อดังกล่าว คาดว่าจะให้วงเงินสินเชื่อรายละ 20,00-50,000 บาท ผ่อนชำระได้นาน 18-24 เดือน
"จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยังขึ้นต่อเนื่อง คนก็หันมาใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น เพราะประหยัดน้ำมัน หากนำมาใช้ผ่อนชำระติดตั้งอุปกรณ์ปรับเปลี่ยนเป็นแก๊ส ก็ไม่ได้เป็นภาระให้ลูกค้ามากขึ้น"นายบุญยง กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ตัดสินใจชะลอแผนการปล่อยสินเชื่อ micro finance ออกไปไม่มีกำหนด จากแนวโน้มดำเนินการได้ยาก และเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นน้อย เนื่องจากมีข้อจำกัดจากกฎเกณฑ์ของทางการทั้งเพดานดอกเบี้ย และการขายลักษณะ Direct sale อาจทำให้การดำเนินการไม่คุ้มต้นทุน และการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อต้องผ่านจากส่วนกลาง ไม่สามารถให้พนักงานขายพิจารณาได้ ดังนั้น บริษัทจึงเห็นว่ายังไม่มีความพร้อม
นายบุญยง กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุน 150 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในการขยายสาขาอีก 10 แห่งในพื้นที่ต่างจังหวัด จากปัจจุบันมี 182 แห่ง วงเงิน 20 ล้านบาท หรือสาขาละ 2 ล้านบาท และใช้ในกิจกรรมส่งเสริมแรงจูงใจพนักงาน 100 ล้านบาท ส่วนอีก 30 ล้านบาทเป็นงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการเจาะตลาดทั้งกลุ่มลูกค้าครัวเรือน และร้านค้าในชุมชนมากขึ้น โดยลูกค้าครัวเรือนปีนี้ยังมีการต่อยอดโครงการสินค้าผ่อนชำระวันละ 30 บาท ทั้งเครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ทีวี LCD 32-42 นิ้วโดยใช้กลยุทธการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่ามาแลกซื้อสินค้าใหม่ได้
ส่วนร้านค้าในชุมชน จะมีการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยจะมีการเพิ่มการสั่งซื้อสินค้าต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นโอกาสในการขายสินค้า จะให้วงเงินผ่อนชำระสินค้า 1 แสนบาทต่อร้านค้า ที่สามารถซื้อสินค้าผ่อนชำระได้หลายรายการในวงเงินดังกล่าว จากเดิมที่จะให้ซื้อสินค้าผ่อนชำระเพียง 1 รายการและต้องผ่อนชำระจนหมดแล้ว จึงจะผ่อนชำระสินค้าอื่นได้ ทำให้ปีที่ผ่านมาบริษัทเสียโอกาสการขายสินค้ามาก และจะมีการเลือกร้านค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี 500 ราย จากฐานลูกค้าประเภทร้านค้าทั้งหมด 10,000 ราย เพื่อเป็นดีลเลอร์ขายสินค้าให้บริษัท โดยจะมีการเสนอผลตอบแทนจูงใจให้ ซึ่งตั้งเป้ายอดขาย 1 แสนบาทต่อเดือนต่อราย
สำหรับความเสี่ยงของธุรกิจในปีนี้ มองว่าเป็นเรื่องของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีผลต่อราคาพืชผลการเกษตรและรายได้เกษตรกร ซึ่งปีที่ผ่านมาพบว่ายางพาราและน้ำมันปาล์มมีราคาดี ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทในพื้นที่ภาคใต้เติบโตได้ดีตามรายได้ของเกษตรกร
อนึ่ง ในปี 54 คาดว่าบริษัทจะสามารถล้างผลขาดทุนสะสมได้หมด จากต้นปี 53 ที่มีผลขาดทุนสะสมประมาณ 90 ล้านบาท และจากผลกำไรที่ดีต่อเนื่อง คาดว่าภายในไตรมาส 1/54 น่าจะล้างผลขาดทุนสะสมได้หมด หลังจากนั้นจะมีการเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินปันผลได้