ปิดตลาดหลักทรัพย์ไทย ดัชนีปรับตัวลดลง 3.32 จุด มาอยู่ที่ระดับ 992.25 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 14,553.02 ล้านบาท โดยบรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยแกว่งตัวแดนบวก แต่ผันผวน เพราะโดนแรงขายทำกำไรของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจัยธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนกันสำรองแบงก์พาณิชย์อีก 0.50% ส่งผลกดดันตลาดระยะสั้น
วันนี้ (21 ก.พ.) ตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดภาคเช้า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 992.25 จุด ลดลง 3.32 จุด(-0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 14,553.02 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวน เป็นลักษณะ Take pofit หลังสถานการณ์จีนกดดันตลาดหุ้นในภูมิภาค รวมทั้งตลาดหุ้นไทย แต่ยังมองว่าตลาดบ้านเรามีลุ้นปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยการเมืองนิ่ง-เงินเฟ้อในประเทศที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียด้วยกัน น่าจะดึงนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าลงทุนได้ คาดบ่ายตลาดคงแกว่งตัวแดนลบในกรอบแคบๆ เหมือนช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 988 จุดและ 983 จุด แนวต้าน 1,000-1,010 จุด
โดยบรรยากาศการซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,000.90 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 988.31 จุด ซึ่งหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,381.12 ล้านบาท ปิดที่ 766.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,380.82 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 945.51 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 4.00 บาท PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 839.58 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท และ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 829.64 ล้านบาท ปิดที่ 6.30 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้าน นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ จำกัด กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าแกว่งตัวผันผวน โดยเป็นการขายทำกำไรทั้งจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ จากปัจจัยธนาคารกลางจีนประกาศปรับเพิ่มสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% ส่งผลกดดันตลาดในระยะสั้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทย แม้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯจะปรับตัวในแดนบวกก็ตาม ผสมโรงกับสถานการณ์ตะวันออกกลางในลิเบียและอิหร่าน แต่ก็เชื่อว่าผลกระทบไม่มาก เพราะได้มีการรับรู้ส่วนหนึ่งจากอียิปต์ไปแล้ว
ทั้งนี้ มองว่า ตลาดน่าจะเป็นลักษณะการปรับฐานในช่วงสั้น เพราะเชื่อว่ายังได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ จึงทำให้ปรับตัวลงไม่แรง เนื่องจากค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า ปัญหาการเมืองนิ่ง และที่คาดว่า จะเห็นการเลือกตั้งในช่วงกลางปี รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อที่ไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชีย จูงใจการกลับเข้ามาลงทุน โดยตลาดในช่วงบ่ายมองว่ายังเป็นการพักฐานต่อ แนะเลือกซื้อบางตัวเมื่อราคาอ่อนตัวลง พร้อมให้แนวรับในช่วง 988 จุดและ 983 จุด แนวต้าน 1,000-1,010 จุด
“ตลาดหุ้นในช่วงนี้เป็นการพักฐาน ไม่น่าจะมีอะไร สิ่งที่ต้องมอง คือ ต่างชาติว่าจะเข้ามามากหรือน้อย ซึ่งถ้าจะอ่อนตัว หลุด 980 จุด ก็ไม่น่าจะมีอะไรน่ากลัว” นายพงศ์ภัทร กล่าว