การออกแบบโครงสร้างของระบบเชื่อมโยงตลาดหลักทรัพย์อาเซียนโครงการ ASEAN Linkage เสร็จสมบูรณ์ ขั้นตอนต่อไปเตรียมคัดเลือกผู้พัฒนาระบบ เพื่อพร้อมเปิดให้บริการซื้อขายข้ามประเทศได้ภายในปีนี้
ตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มอาเซียน 4 แห่ง ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และไทย ร่วมด้วย NYSE Technologies (เอ็นวายเอสอี เทคโนโลยี) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ออกแบบโครงสร้างของระบบอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์โครงการ ASEAN Linkage เปิดเผยว่า ขณะนี้การศึกษาและออกแบบโครงสร้างดังกล่าวได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยในขั้นตอนต่อไปตลาดหลักทรัพย์อาเซียนทั้ง 4 แห่งจะพิจารณาคัดเลือกผู้พัฒนาระบบเชื่อมโยงการซื้อขาย ชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ซึ่งการเชื่อมต่อระหว่างตลาดหลักทรัพย์ของไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการซื้อขายได้ภายในปีนี้
โดย โครงการ ASEAN Linkage เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 7 แห่งใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนิเซีย และเวียดนาม เพื่อพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมต่อการซื้อขายระหว่างตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ข้ามประเทศ เพิ่มความน่าสนใจของภูมิภาค และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า แผนพัฒนาตลาดทุนใน 3-5 ปีข้างหน้า จะต้องเร่งแก้กฎหมายให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดการเปิดเสรีตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการแข่งขันในตลาดทุนทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ก็เพื่อให้ตลาดมีขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้นตลาดทุนไทย จำเป็นต้องเร่งรับมือกับการแข่งขันที่เกิดขึ้นในขณะนี้
โดย เอเชี่ยนลิงค์เกจ เป็นแผนของตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน ที่วางแผนจะเชื่อมโยงระบบการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน โดยสร้างเป็น Electronic Trading Link ซึ่งมีบางประเทศ ยังไม่มีความพร้อม ทำให้การซื้อขายดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จะทำให้ตลาดในภูมิภาคมีความน่าสนใจ และสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นมาก
สำหรับ Electronic Trading Link ตามแผนที่กำหนดในปี 2554 ตลาดหลักทรัพย์ไทย และตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย จะเชื่อมโยงกันเป็นคู่แรก และตามมาด้วยตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์และฟิลิปปินส์
ตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มอาเซียน 4 แห่ง ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และไทย ร่วมด้วย NYSE Technologies (เอ็นวายเอสอี เทคโนโลยี) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ออกแบบโครงสร้างของระบบอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์โครงการ ASEAN Linkage เปิดเผยว่า ขณะนี้การศึกษาและออกแบบโครงสร้างดังกล่าวได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยในขั้นตอนต่อไปตลาดหลักทรัพย์อาเซียนทั้ง 4 แห่งจะพิจารณาคัดเลือกผู้พัฒนาระบบเชื่อมโยงการซื้อขาย ชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ ซึ่งการเชื่อมต่อระหว่างตลาดหลักทรัพย์ของไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการซื้อขายได้ภายในปีนี้
โดย โครงการ ASEAN Linkage เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 7 แห่งใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนิเซีย และเวียดนาม เพื่อพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เชื่อมต่อการซื้อขายระหว่างตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ข้ามประเทศ เพิ่มความน่าสนใจของภูมิภาค และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้เข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า แผนพัฒนาตลาดทุนใน 3-5 ปีข้างหน้า จะต้องเร่งแก้กฎหมายให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดการเปิดเสรีตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการแข่งขันในตลาดทุนทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ก็เพื่อให้ตลาดมีขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้นตลาดทุนไทย จำเป็นต้องเร่งรับมือกับการแข่งขันที่เกิดขึ้นในขณะนี้
โดย เอเชี่ยนลิงค์เกจ เป็นแผนของตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน ที่วางแผนจะเชื่อมโยงระบบการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน โดยสร้างเป็น Electronic Trading Link ซึ่งมีบางประเทศ ยังไม่มีความพร้อม ทำให้การซื้อขายดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จะทำให้ตลาดในภูมิภาคมีความน่าสนใจ และสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นมาก
สำหรับ Electronic Trading Link ตามแผนที่กำหนดในปี 2554 ตลาดหลักทรัพย์ไทย และตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย จะเชื่อมโยงกันเป็นคู่แรก และตามมาด้วยตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์และฟิลิปปินส์
