เอเอฟพี/เอเจนซี - ดอยต์เช เบอร์เช (Deutsche Boerse) บริษัทผู้ดำเนินการตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต และ เอ็นวายเอสอี ยูโรเนกซ์ (NYSE Euronext) บริษัทผู้ดำเนินการตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก แถลงในวันอังคาร (15) ว่า จะเข้าควบคุมกัน ซึ่งจะกลายเป็นกิจการตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อวัดจากรายรับ อีกทั้งยังกลายเป็นมหาอำนาจในด้านการซื้อขายตราสารอนุพันธ์
เรโต ฟรานซิโอนี ซีอีโอของดอยต์เช เบอร์เช ซึ่งจะกลายเป็นประธานของบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกัน และ ดันแคน นีเดอเราเออร์ ซีอีโอของ เอ็นวายเอสอี ยูโรเนกซ์ ที่จะเป็นซีอีโอของบริษัทใหม่ ต่างยอมรับในการแถลงข่าว ว่า กระบวนการเพื่อการรวมกิจการกันนี้จะประสบอุปสรรคจำนวนมาก ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ทั้งสอง ทั้งทรงความสำคัญทางเศรษฐกิจและถือเป็นความภูมิใจของแต่ละประเทศ ดังนั้น จึงถูกสมาชิกรัฐสภาและหน่วยงานกำกับตรวจสอบของ 2 ประเทศตลอดจนชาติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จับตามองอย่างระแวดระวัง จนเป็นที่คาดหมายกันว่า กว่าจะได้ไฟเขียวผ่านตลอดอาจจะต้องใช้เวลาถึงสิ้นปีนี้
สัญญาณประการหนึ่งที่แสดงถึงความลำบากดังกล่าวนี้ ได้แก่ การที่บริษัททั้งสองใช้วิธีพักคำถามสำคัญๆ ที่อาจทำให้การควบร่วมต้องล่มลงไปเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะคำถามที่ว่าบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกันนี้จะใช้ชื่อว่าอะไร
ขณะเดียวกัน นีเดอเราเออร์ ก็พยายามยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้เป็นการควบรวมกิจการกัน แต่จากการที่ฝ่ายเยอรมันจะเป็นผู้ถือหุ้น 60% ในบริษัทใหม่ รวมทั้งเป็นผู้ตั้งกรรมการบริหาร 10 คนจากจำนวนทั้งสิ้น 17 คน สำนักข่าวรอยเตอร์ จึงเรียกว่า นี่คือ การที่ ดอยช์เช เบอร์เช เข้าเทคโอเวอร์ เอ็นวายเอสอี ยูโรเนกซ์
เรโต ฟรานซิโอนี ซีอีโอของดอยต์เช เบอร์เช ซึ่งจะกลายเป็นประธานของบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกัน และ ดันแคน นีเดอเราเออร์ ซีอีโอของ เอ็นวายเอสอี ยูโรเนกซ์ ที่จะเป็นซีอีโอของบริษัทใหม่ ต่างยอมรับในการแถลงข่าว ว่า กระบวนการเพื่อการรวมกิจการกันนี้จะประสบอุปสรรคจำนวนมาก ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ทั้งสอง ทั้งทรงความสำคัญทางเศรษฐกิจและถือเป็นความภูมิใจของแต่ละประเทศ ดังนั้น จึงถูกสมาชิกรัฐสภาและหน่วยงานกำกับตรวจสอบของ 2 ประเทศตลอดจนชาติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จับตามองอย่างระแวดระวัง จนเป็นที่คาดหมายกันว่า กว่าจะได้ไฟเขียวผ่านตลอดอาจจะต้องใช้เวลาถึงสิ้นปีนี้
สัญญาณประการหนึ่งที่แสดงถึงความลำบากดังกล่าวนี้ ได้แก่ การที่บริษัททั้งสองใช้วิธีพักคำถามสำคัญๆ ที่อาจทำให้การควบร่วมต้องล่มลงไปเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะคำถามที่ว่าบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกันนี้จะใช้ชื่อว่าอะไร
ขณะเดียวกัน นีเดอเราเออร์ ก็พยายามยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคราวนี้เป็นการควบรวมกิจการกัน แต่จากการที่ฝ่ายเยอรมันจะเป็นผู้ถือหุ้น 60% ในบริษัทใหม่ รวมทั้งเป็นผู้ตั้งกรรมการบริหาร 10 คนจากจำนวนทั้งสิ้น 17 คน สำนักข่าวรอยเตอร์ จึงเรียกว่า นี่คือ การที่ ดอยช์เช เบอร์เช เข้าเทคโอเวอร์ เอ็นวายเอสอี ยูโรเนกซ์
