ทีโอที เกรงหมดอายุความ เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายตามภาระทางกฎหมายจากคู่สัญญาภาคเอกชนมูลค่ารวมกว่า 214,700 ล้านบาท โดยย้ำว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ เอกชนโดนถ้วนหน้าทั้งเอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ ทรูคอร์ปอเรชั่น ทีทีแอนด์ที ดีพีซี และกสท โทรคมนาคม
บริษัท ทีโอที เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายจากคู่สัญญาภาคเอกชนรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 214,700 ล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 และการเรียกร้องความเสียหายกรณีการค้างชำระค่าเชื่อมโยงโครงข่ายภาคเอกชน (แอ็คเซสชาร์จ หรือเอซี) ภายใต้การอนุญาตของ บริษัท กสท โทรคมนาคม
ทั้งนี้ การดำเนินการเรียกร้องความเสียหายในครั้งนี้ เป็นภาระทางกฎหมายที่ ทีโอที จะต้องดำเนินการภายในกรอบอายุความที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทีโอทีได้เตรียมดำเนินการกับคู่สัญญาภาคเอกชนทุกรายโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อรายใดรายหนึ่ง เนื่องจาก ทีโอที เป็นองค์กรของรัฐ ต้องดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายนพณัฎฐ์ หุตะเจริญ รักษาการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่าขณะนี้สายงานกฎหมายและบริหารผลประโยชน์ ได้เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายกับคู่สัญญาภาคเอกชน ได้แก่ การดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายกรณีคู่สัญญาเอกชนภายใต้การอนุญาตของกสท กรณีการค้างชำระค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (แอ็คเซสชาร์จ หรือเอซี) โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 138,600 ล้านบาท แบ่งเป็นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) มูลค่าความเสียหายประมาณ 97,000 ล้านบาท บริษัท ทรูมูฟ มูลค่าความเสียหายประมาณ 35,000 ล้านบาท บริษัท ดิจิตอลโฟน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,400 ล้านบาท และกสท มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,200 ล้านบาท
สำหรับการเรียกร้องความเสียหายที่เกิดจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 ทีโอที ได้เตรียมดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายโดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 76,100 ล้านบาท แบ่งเป็น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เป็นเงินประมาณ 74,000 ล้านบาท ทรู คอร์ปอเรชั่น ประมาณ 1,400 ล้านบาทและจากบริษัท ทีทีแอนด์ที ประมาณ 700 ล้านบาท โดยทีโอทีจะดำเนินการทวงถามเร็ว ๆ นี้
'ทีโอที ได้เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายจากคู่สัญญาภาคเอกชนทุกรายโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อรายใดรายหนึ่ง ทั้งนี้ การดำเนินการเป็นผลเนื่องมากจากมีคู่สัญญาเอกชนบางรายใกล้หมดอายุความ ดังนั้น ทีโอที จึงต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้อยู่ภายในกรอบอายุความที่กฎหมายกำหนด'
บริษัท ทีโอที เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายจากคู่สัญญาภาคเอกชนรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 214,700 ล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายที่เกิดจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 และการเรียกร้องความเสียหายกรณีการค้างชำระค่าเชื่อมโยงโครงข่ายภาคเอกชน (แอ็คเซสชาร์จ หรือเอซี) ภายใต้การอนุญาตของ บริษัท กสท โทรคมนาคม
ทั้งนี้ การดำเนินการเรียกร้องความเสียหายในครั้งนี้ เป็นภาระทางกฎหมายที่ ทีโอที จะต้องดำเนินการภายในกรอบอายุความที่กฎหมายกำหนด ซึ่งทีโอทีได้เตรียมดำเนินการกับคู่สัญญาภาคเอกชนทุกรายโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อรายใดรายหนึ่ง เนื่องจาก ทีโอที เป็นองค์กรของรัฐ ต้องดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายนพณัฎฐ์ หุตะเจริญ รักษาการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่าขณะนี้สายงานกฎหมายและบริหารผลประโยชน์ ได้เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายกับคู่สัญญาภาคเอกชน ได้แก่ การดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายกรณีคู่สัญญาเอกชนภายใต้การอนุญาตของกสท กรณีการค้างชำระค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (แอ็คเซสชาร์จ หรือเอซี) โดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 138,600 ล้านบาท แบ่งเป็นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) มูลค่าความเสียหายประมาณ 97,000 ล้านบาท บริษัท ทรูมูฟ มูลค่าความเสียหายประมาณ 35,000 ล้านบาท บริษัท ดิจิตอลโฟน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2,400 ล้านบาท และกสท มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,200 ล้านบาท
สำหรับการเรียกร้องความเสียหายที่เกิดจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 ทีโอที ได้เตรียมดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายโดยมีมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 76,100 ล้านบาท แบ่งเป็น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เป็นเงินประมาณ 74,000 ล้านบาท ทรู คอร์ปอเรชั่น ประมาณ 1,400 ล้านบาทและจากบริษัท ทีทีแอนด์ที ประมาณ 700 ล้านบาท โดยทีโอทีจะดำเนินการทวงถามเร็ว ๆ นี้
'ทีโอที ได้เตรียมดำเนินการเรียกร้องความเสียหายจากคู่สัญญาภาคเอกชนทุกรายโดยไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อรายใดรายหนึ่ง ทั้งนี้ การดำเนินการเป็นผลเนื่องมากจากมีคู่สัญญาเอกชนบางรายใกล้หมดอายุความ ดังนั้น ทีโอที จึงต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้อยู่ภายในกรอบอายุความที่กฎหมายกำหนด'
