ผู้บริหาร “สิงเทล” เข้าพบนายกฯ ยันไม่ถอนหุ้นเอไอเอส พร้อมเดินหน้าทำธุรกิจในไทย ด้าน “อภิสิทธิ์” อุบเรื่องคดี โบ้ยเป็นเรื่องทางกฎหมายต้องว่ากันไป โดยในส่วนทีโอทีฟ้องเรียกค่าเสียหาย ทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่ของตนเอง
วันนี้ (1 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง นาย Chua Sock Koong ผู้บริหารสิงเทล เข้าพบ ว่า เป็นการมาขอความมั่นใจทำธุรกิจในประเทศไทย แต่ยังไม่คุยในรายละเอียด โดยทางด้านผู้บริหารสิงเทลไม่ได้แสดงความกังวลอะไร เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า สิงเทลในฐานะถือหุ้นเอไอเอส ได้หารือกรณีปัญหาเรียกเก็บค่าเสียหายจากการแก้ไขสัญญาสัมปทานเอไอเอสหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่พูดคุยกันว่า รัฐบาลมีหน้าที่ทำตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งอีกฝ่ายก็ต้องเข้าใจ เนื่องจากทำธุรกิจอยู่ภายใต้กฎหมาย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะนำสัญญาสัมปทานทั้งหมด ทั้ง ดีแทค ทรูมูฟ เข้าพิจารณา ดูภาพรวมทั้งหมดให้เกิดความมั่นใจได้ว่า การปฏิบัติต้องเหมือนกัน ใช้หลักเดียวกัน รัฐบาลต้องการให้ธุรกิจโทรคมนาคมเจริญเติบโต เพื่อประโยชน์ของสังคม แต่ข้อกฎหมายต้องเป็นข้อกฎหมาย ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะรายงานการปฏิบัติตามมติ ครม.รวมถึงตรวจดูคำพิพากษาของศาล และความเห็นของกฤษฎีกาว่าต้องทำอย่างไร
ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที กล่าวว่า สิงเทล ยืนยันว่าจะยังไม่ถอนหุ้นจาก เอไอเอส และยังดำเนินธุรกิจในไทยตามปกติ แม้ว่าจะมีคดี ที่ทางทีโอที ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 7.5 หมื่นล้านบาท ก็ตาม