โฮมโปรฯเล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างจังหวัด เร่งขยายสาขาในเมืองรองหัวเมืองใหญ่ผุด5สาขาใหม่คาดใช้งบลงทุนกว่า2,000 ล้านบาท พร้อมงัดกลยุทธ์ตลาดมิกซ์สินค้าปรับสัดสินสินค้าตอบสนองความต้องการลูกค้า เดินหน้าจับมือพันธมิตรการเงินอัดแคมเปญตลอดปี ล่าสุดจัแคมเปญ “ซูเปอร์ซ็อค” วางเป้ายอดขาย1,700ล้านบาท จ่อเปิดขายขายเว็ปต์ไซด์เติมตัวหวังขยายช่องทางเพิ่มยอดในอนาคต ตั้งเป้าทั้งปีรายได้โต10%
นายณัฎฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บรัทโฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ด้านการตลาดปี2554 ว่าในปีนี้จะเน้นให้น้ำหนักในการขยายการลงทุนเปิดสาขาใหม่ออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น ขณะเดียวกันการเปิดสาขาใหม่จะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการขายของบริษัทไปด้วยในตัว โดยในปีนี้โฮมโปรฯตั้งเป้าว่าจะมีการขยายสาขาใหม่4-5 สาขา โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,000ล้านบาท
ทั้งนี้ สาขาที่จะลงทุนใหม่ในปีนี้จะเน้นเปิดสาขาขนาดกลาง ซึ่งมีพื้นที่ขายประมาณ 5,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)หรือใช้งบลงทุนประมาณ 400-500ล้านบาท ซึ่งสาขาใหฒ่จะเปิดในหัวเมืองรอง เนื่องจากโฮมโปรฯได้เปิดสาขาในหัวเมืองหลักหรือหัวเมืองขนาดใหญ่ค่อนข้างครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว โดยขณะนี้บริษัทได้ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการเปิดสาขาให่มเข้ามาแล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วยที่ดินในจังหวัดฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี และรอยเอ็ด ส่วนที่เหลืออีก1-2 สาขาอยู่ระหว่างการหาซื้อที่ดินอยู่
“การขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในแนวทางการลดต้นทุนการขายของบริษัท ในขระเดียวกันก็เป็นการให้น้ำหนักในการลงทุนในต่างจังหวัดเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าในต่าจังหวัดให้สูงขึ้นโดยปัจจุบันโฮมโปรฯมีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านสาขาใน กทม.50% และรายได้จากการขายผ่านสาขาในต่างจังหวัด 50% และเมื่อมีการทยอยเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ในอนาคตรายได้หลักของบริษัทจะมาจากสาขาในต่างจังหวัดมีสัดส่วนสูงกว่าในสาขากทม.”
นายณัฎฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศและเพิ่มยอดขายในอนาคต โฮมโปรฯยังมีแผนจะเปิดขายสินค้าผ่านเว็ปต์ไซด์ ของบริษัทโดยเปิดให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็ปต์ไซด์ได้ตามต้องการโดยในเบื้องต้นนี้ การขายผ่านเว็ปต์ไซด์อยู่ระหว่างการทดลองทำตลาด
ส่วนในด้านกลยุทธ์ตลาดในปีนี้ จะเน้นการปรับเปลี่ยนสิ้นค้าที่ผสมผสานเพื่มความหลากหลายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์เป็น18% จากเดิม16% โดยมีเป้าสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่วางไว้สูงสุด 25%
นอกจากนี้ จะเน้นการให้บริการและจับมือกับพันธมิตรการค้า เช่น สถาบันการเงินในการมอบส่วนลดและการเบิร์นแตมสะสมของลูกค้าบัตรเครดิตที่ซื้อสินค้าของโฮมโปรฯให้สามารถแลกนำแต้มสะสมมาแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าในแต่ละแคมเปญที่บริษัทจัดตลอดทั้งปี พร้อมทั้งมอบส่วนลดเมื่อลูกค้าซื้อผ่านบัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่ร่วมจัดแคมเปญกับบริษัทในแต่ละช่วงด้วย
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 3-27 กุมภาพัน นี้ โฮมโปรฯจะจัดแคมเปญใหญ่ HomePro Super Skoc Sale โดยจับมือกับบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพฯ ขึ้นโดยแคมเปญดังกล่าวลูกค้าจะได้รับส่วลดในการซื้อสินค้าสูงสุดถึง 70% โดยจะใช้งบประมาณในการจัดแคมเปญครั้งรนี้ประมาณ 25ล้านบาทซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายจากงานนี้ประมษร 1,700ล้านบาท
“ในปีนี้บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าตลาดรวมจะขยายตัวที่ระดับ10%จากปี2553 ส่วนปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสาขาในเมืองเช่น สาขาเพลินจิต แต่จะมียอดขายเพิ่มรส่วนของสาขารอบนอกและต่างจังหวัดแทน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 10%”
นายณัฎฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด บรัทโฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ด้านการตลาดปี2554 ว่าในปีนี้จะเน้นให้น้ำหนักในการขยายการลงทุนเปิดสาขาใหม่ออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น ขณะเดียวกันการเปิดสาขาใหม่จะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการขายของบริษัทไปด้วยในตัว โดยในปีนี้โฮมโปรฯตั้งเป้าว่าจะมีการขยายสาขาใหม่4-5 สาขา โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,000ล้านบาท
ทั้งนี้ สาขาที่จะลงทุนใหม่ในปีนี้จะเน้นเปิดสาขาขนาดกลาง ซึ่งมีพื้นที่ขายประมาณ 5,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)หรือใช้งบลงทุนประมาณ 400-500ล้านบาท ซึ่งสาขาใหฒ่จะเปิดในหัวเมืองรอง เนื่องจากโฮมโปรฯได้เปิดสาขาในหัวเมืองหลักหรือหัวเมืองขนาดใหญ่ค่อนข้างครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว โดยขณะนี้บริษัทได้ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการเปิดสาขาให่มเข้ามาแล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วยที่ดินในจังหวัดฉะเชิงเทรา สุพรรณบุรี และรอยเอ็ด ส่วนที่เหลืออีก1-2 สาขาอยู่ระหว่างการหาซื้อที่ดินอยู่
“การขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งในแนวทางการลดต้นทุนการขายของบริษัท ในขระเดียวกันก็เป็นการให้น้ำหนักในการลงทุนในต่างจังหวัดเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าในต่าจังหวัดให้สูงขึ้นโดยปัจจุบันโฮมโปรฯมีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านสาขาใน กทม.50% และรายได้จากการขายผ่านสาขาในต่างจังหวัด 50% และเมื่อมีการทยอยเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ในอนาคตรายได้หลักของบริษัทจะมาจากสาขาในต่างจังหวัดมีสัดส่วนสูงกว่าในสาขากทม.”
นายณัฎฐ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศและเพิ่มยอดขายในอนาคต โฮมโปรฯยังมีแผนจะเปิดขายสินค้าผ่านเว็ปต์ไซด์ ของบริษัทโดยเปิดให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็ปต์ไซด์ได้ตามต้องการโดยในเบื้องต้นนี้ การขายผ่านเว็ปต์ไซด์อยู่ระหว่างการทดลองทำตลาด
ส่วนในด้านกลยุทธ์ตลาดในปีนี้ จะเน้นการปรับเปลี่ยนสิ้นค้าที่ผสมผสานเพื่มความหลากหลายให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์เป็น18% จากเดิม16% โดยมีเป้าสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่วางไว้สูงสุด 25%
นอกจากนี้ จะเน้นการให้บริการและจับมือกับพันธมิตรการค้า เช่น สถาบันการเงินในการมอบส่วนลดและการเบิร์นแตมสะสมของลูกค้าบัตรเครดิตที่ซื้อสินค้าของโฮมโปรฯให้สามารถแลกนำแต้มสะสมมาแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าในแต่ละแคมเปญที่บริษัทจัดตลอดทั้งปี พร้อมทั้งมอบส่วนลดเมื่อลูกค้าซื้อผ่านบัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่ร่วมจัดแคมเปญกับบริษัทในแต่ละช่วงด้วย
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 3-27 กุมภาพัน นี้ โฮมโปรฯจะจัดแคมเปญใหญ่ HomePro Super Skoc Sale โดยจับมือกับบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพฯ ขึ้นโดยแคมเปญดังกล่าวลูกค้าจะได้รับส่วลดในการซื้อสินค้าสูงสุดถึง 70% โดยจะใช้งบประมาณในการจัดแคมเปญครั้งรนี้ประมาณ 25ล้านบาทซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายจากงานนี้ประมษร 1,700ล้านบาท
“ในปีนี้บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดจะยังขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าตลาดรวมจะขยายตัวที่ระดับ10%จากปี2553 ส่วนปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสาขาในเมืองเช่น สาขาเพลินจิต แต่จะมียอดขายเพิ่มรส่วนของสาขารอบนอกและต่างจังหวัดแทน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 10%”