ปิดตลาดหุ้นไทย ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,022.16 จุด หรือลดลง 12.64 จุด ซึ่งนักวิเคราะห์ฺ ชี้ สาเหตุที่หุ้นไืทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากตลาดหุ้นภูมิภาคก็เป็นเช่นนี้ทั่วหน้า ขณะที่ พรุ่้งนี้มีโอกาสทรงตัว หรือรีบาวนด์เล็กน้อย
วันนี้ (20 ม.ค.) ปิดตลาดหลักทรัพย์ ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,022.16 จุด ลดลง 12.64 จุด หรือ 1.22 % แตะระดับสูงสุด 1,031.99 จุด และระดับต่ำสุด 1,017.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,178 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ คือ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,970 ล้านบาท ปิดที่ 339.00 บาท ลดลง 3.00 บาท (-0.88%) BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,809 ล้านบาท ปิดที่ 812.00 บาท ลดลง 16.00 บาท (-1.93%) SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,605 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 0.75 บาท (-0.75%) IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,554 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 1.75 บาท (-3.93%) และ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,226 ล้านบาท ปิดที่ 6.90 บาท ลดลง 0.15 บาท (-2.13%)
ด้าน นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไวรัส เปิดเผยว่า วันนี้ที่ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคที่ต่างก็ปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดยมาจากปลายปัจจัย ตั้งแต่ความกังวลในเรื่องตัวเลขเงินเฟ้อของจีนชะลอลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้กลับมากังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของทางการจีนอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยลบอื่นๆ อีก ตั้งแต่ราคาตัวเลขการสร้างบ้านของสหรัฐฯยังกลับมาต่ำสุดในรอบ 1 ปี การที่ดัชนีดาวน์โจนส์ปิดลบหลังผิดหวังกับสาถบันการเงินทั้งขนาดกลางและใหญ่ของสหรับออกมาได้อย่างน่าผิดหวัง
ส่วนการเคลื่อนไหวของดัชนีวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) คาดว่า หากไม่มีข่าวลบที่นำมาสู่จิตวิทยาการลงทุนอย่างวันนี้อีก ดัชนีอาจเคลื่อนไหวในระดับที่ทรงตัว หรือมีโอกาสรีบาวด์ได้เล็กน้อยโดยประเมินกรอบแนวรับที่ 1,020 จุด และแนวต้านที่ 1,040 จุด กลยุทธ์ลงทุน อาศัยจังหวะที่ดัชนีอ่อนตัวสะสมหุ้นทึ่คาดว่าจะมีการประกาศผลการดำเนินงานปี 2553 ออกมาดี และมีการจ่ายปันผล
