ต้อนรับปีกระต่ายหุ้นไทยดีดตัวแรงตามตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค ก่อนเจอแรงขายทำกำไรกดปิดตลาดดัชนีบวกเพิ่มแค่ 9.65 จุด วอลุ่มการซื้อขาย 3.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 3.1 พันล้านบาท หุ้นกลุ่มพลังงาน-แบงก์ นำทีมราคาปรับเพิ่ม โบรกฯมองหลายปัจจัยบวกช่วยสนับสนุน แต่เชื่อการเทขายทำกำไรมีให้เห็นบ่อย คาดดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบ
ตลาดหุ้นไทย 4 ม.ค.วันแรกของปี 2554 ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดวัน แม้ช่วงบ่ายปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังปิดที่ระดับ 1,042.41 จุด เพิ่มขึ้น 9.65 จุด หรือ 0.93% มูลค่าการซื้อขาย 37,096.18 ล้านบาท โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,048.80 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,040.06 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนี ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ดีขึ้น แต่มีการเทขายทำกำไรนออกมากดดันดัชนีเป็นระยะ
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ วานนี้ ส่วนใหญ้เป็นหุ้นในกลุ่งพลังงาน ได้แก่ BANPU มูลค่าการซื้อขาย 5,703.55 ล้านบาท ปิดที่ 842.00 บาท เพิ่มขึ้น 50.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,484.67 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท IRPC มูลค่าการซื้อขาย 2,062.53 ล้านบาท ปิดที่ 6.35 บาท ลดลง 0.15 บาท BTS มูลค่าการซื้อขาย 1,785.80 ล้านบาท ปิดที่ 0.87 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,649.86 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 227 หลักทรัพย์ ลดลง 148 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 131 หลักทรัพย์
ขณะที่การซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นผู้ซื้อสุทธิอีก 3,194.49 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 489.98 ล้านบาท โดย นักลงทุนทั่วไปและ สถาบัน ขายสุทธิ 2,757.14 ล้านบาท และ 927.34 ล้านบาทตามลำดับ
ด้านการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดขยับลงเล็กน้อยโดยปิดลบ 2.70 จุด หรือ 0.1% แตะ 4,742.50 จุด, ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดปรับฐานลง จากแรงขายทำกำไรโดยอ่อนตัวลง 28.11 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 8,997.19 จุด, ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.06 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ระดับ 2,085.14 จุด ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่, ดัชนีนิกเกอิตลาด หุ้นโตเกียวปิดตลาดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบกว่า 7 เดือน เพิ่มขึ้น 169.18 จุด หรือ 1.65% แตะที่ 10,398.10 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนาม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยบวก 1.31 จุด หรือ 0.27% แตะ 485.97 จุด, ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดพุ่งสูงขึ้น 44.57 จุด หรือ 1.59% ปิดที่ 2,852.65 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 255.96 จุด หรือ 2.05% ปิดที่ 12,714.51 จุด และ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงบวก 232.43 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 23,668.48 จุด
นางสาว ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ใน sentiment ที่ค่อนข้างดี โดยการซื้อขายวันแรกของปีสามารถเปิดบวกได้ตามตลาดต่างประเทศ ที่ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวขึ้นมา ประกอบกับมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และวัสดุก่อสร้าง จึงทำให้ดัชนีปรับขึ้นแรง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยทางการเมืองกรณีที่มีคนไทย 7 คน ถูกกัมพูชาควบคุมตัวไปหลังล่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา และการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะมีการนัดชุมนุมประท้วงกัมพูชาและเริ่มมีการต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศเรื่องปัญหาหนี้ในยุโรปก็ยังมีอยู่และไม่น่าจะจบลงง่าย
ด้าน นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี ตามตลาดต่างประเทศที่ หลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปที่ออกมาค่อนข้างดี ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนก็ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเมื่อตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาได้ในช่วงนี้ต้องระมัดระวัง ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (5 ม.ค.) ประเมินว่าดัชนีคงเริ่มแกว่งตัวมากขึ้น แนะนำ “เทรดดิ้ง” พร้อมให้แนวรับ 1,040-1,036 จุด แนวต้าน 1,055 และ 1,066-1,070 จุด
ตลาดหุ้นไทย 4 ม.ค.วันแรกของปี 2554 ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดวัน แม้ช่วงบ่ายปรับตัวลดลงบ้าง แต่ยังปิดที่ระดับ 1,042.41 จุด เพิ่มขึ้น 9.65 จุด หรือ 0.93% มูลค่าการซื้อขาย 37,096.18 ล้านบาท โดยระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,048.80 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,040.06 จุด ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนี ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ดีขึ้น แต่มีการเทขายทำกำไรนออกมากดดันดัชนีเป็นระยะ
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ วานนี้ ส่วนใหญ้เป็นหุ้นในกลุ่งพลังงาน ได้แก่ BANPU มูลค่าการซื้อขาย 5,703.55 ล้านบาท ปิดที่ 842.00 บาท เพิ่มขึ้น 50.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,484.67 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท IRPC มูลค่าการซื้อขาย 2,062.53 ล้านบาท ปิดที่ 6.35 บาท ลดลง 0.15 บาท BTS มูลค่าการซื้อขาย 1,785.80 ล้านบาท ปิดที่ 0.87 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,649.86 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 227 หลักทรัพย์ ลดลง 148 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 131 หลักทรัพย์
ขณะที่การซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นผู้ซื้อสุทธิอีก 3,194.49 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 489.98 ล้านบาท โดย นักลงทุนทั่วไปและ สถาบัน ขายสุทธิ 2,757.14 ล้านบาท และ 927.34 ล้านบาทตามลำดับ
ด้านการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดขยับลงเล็กน้อยโดยปิดลบ 2.70 จุด หรือ 0.1% แตะ 4,742.50 จุด, ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดปรับฐานลง จากแรงขายทำกำไรโดยอ่อนตัวลง 28.11 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 8,997.19 จุด, ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.06 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ระดับ 2,085.14 จุด ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่, ดัชนีนิกเกอิตลาด หุ้นโตเกียวปิดตลาดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบกว่า 7 เดือน เพิ่มขึ้น 169.18 จุด หรือ 1.65% แตะที่ 10,398.10 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนาม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยบวก 1.31 จุด หรือ 0.27% แตะ 485.97 จุด, ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดพุ่งสูงขึ้น 44.57 จุด หรือ 1.59% ปิดที่ 2,852.65 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 255.96 จุด หรือ 2.05% ปิดที่ 12,714.51 จุด และ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงบวก 232.43 จุด หรือ 0.99% ปิดที่ 23,668.48 จุด
นางสาว ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ใน sentiment ที่ค่อนข้างดี โดยการซื้อขายวันแรกของปีสามารถเปิดบวกได้ตามตลาดต่างประเทศ ที่ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวขึ้นมา ประกอบกับมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และวัสดุก่อสร้าง จึงทำให้ดัชนีปรับขึ้นแรง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตามปัจจัยทางการเมืองกรณีที่มีคนไทย 7 คน ถูกกัมพูชาควบคุมตัวไปหลังล่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา และการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่จะมีการนัดชุมนุมประท้วงกัมพูชาและเริ่มมีการต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศเรื่องปัญหาหนี้ในยุโรปก็ยังมีอยู่และไม่น่าจะจบลงง่าย
ด้าน นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี ตามตลาดต่างประเทศที่ หลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรปที่ออกมาค่อนข้างดี ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนก็ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเมื่อตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาได้ในช่วงนี้ต้องระมัดระวัง ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (5 ม.ค.) ประเมินว่าดัชนีคงเริ่มแกว่งตัวมากขึ้น แนะนำ “เทรดดิ้ง” พร้อมให้แนวรับ 1,040-1,036 จุด แนวต้าน 1,055 และ 1,066-1,070 จุด