ตลาดหุ้นไทยยังแรง!! ดัชนีสร้างนิวไฮใหม่แตะ 1,050 จุด โดดกว่าตลาดอื่นๆในภูมิภาค จากแรงซื้อเข้าเก็งกำไรหุ้นแบงก์ ที่คาดรับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นหนุนยอดปล่อยกู้โต แถมแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น โบรกฯเตือนปรับขึ้น2วันแล้วอาจแกว่ง มองดัชนียังเคลื่อนตัวในกรอบแคบ
ตลาดหุ้นไทย วานนี้ (5ม.ค.) ดัชนีหลักทรัพย์สร้างจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่วันที่สองของปี โดยปิดที่ระดับ 1,050.78 จุด (จากครั้งที่ผ่านมา1,049.79 จุดเมื่อ 8 พ.ย.53) เพิ่มขึ้น 8.37 จุด หรือ 0.80% ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,052.36 จุด และปรับตัวต่ำสุดที่ 1,044.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,025.60 ล้านบาท
ขณะที่การซื้อขายแยกเป็นประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 931.78 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันที่ซื้อสุทธิ 774.32 ล้านบาท โดย บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 268.61 ล้านบาท และ 1,437.49 ล้านบาท ตามลำดับ
ภาพรวมวานนี้ หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 236 หลักทรัพย์ ลดลง 135 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ TMB มูลค่าการซื้อขาย 2,747.30 ล้านบาท ปิดที่ 2.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,456.60 ล้านบาท ปิดที่ 850.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,087.60 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,739.33 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และ IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,523.77 ล้านบาท ปิดที่ 54.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค วานนี้ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดลบ 27.60 จุด หรือ 0.6% แตะ 4,714.90 จุด , ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ดิ่งลง 150.88 จุด หรือ 1.68% มาปิดที่ระดับ 8,846.31 จุด , ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบ 17.33 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 10,380.77 จุด,ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.59 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ระดับ 2,082.55 จุด
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน อ่อนตัว 14.06 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 2,838.59 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นลบ 66.89 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 12,647.63 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดลบ 4.06 จุด หรือ 0.84% แตะ 481.91 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดปรับตัวสูงขึ้นบวก 89.34 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 23,757.82 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า รับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นและเศรษฐกิจที่ขยายตัว ที่คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 12 ม.ค.นี้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยฯอีก 0.25% และทั้งปีจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1% ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ได้รับประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับขึ้นต่อจากเมื่อวานนี้ โดยช่วงนี้เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อย่างตลาดเอเชียและตลาดหุ้นไทยอยู่ โดยวานนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีน้ำหนักต่อการปรับขึ้นของดัชนีฯค่อนข้างมากหลังจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นและจากคาดการณ์ว่าในปีนี้การลงทุนของภาคเอกชนจะมีมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่กลุ่มพลังงานชะลอตัวลงหลังจากปรับขึ้นแรง
“หุ้นกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นทั้ง BBL, KBANK,SCB ส่วนขนาดกลางอย่าง TMB ก็ปรับขึ้นหลังมีข่าวขายหุ้นให้พันธมิตรใหม่ โดยรวมถือว่าโดดเด่นกว่าทั้งภูมิภาค แต่วันนี้(6ม.ค.)มองว่าดัชนีคงจะพักตัวบ้าง ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(6 ม.ค.) ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังจากปรับขึ้นมามากแล้วในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยแนวรับอยู่ที่ 1,043 จุด และแนวต้าน 1,050 จุด
ตลาดหุ้นไทย วานนี้ (5ม.ค.) ดัชนีหลักทรัพย์สร้างจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่วันที่สองของปี โดยปิดที่ระดับ 1,050.78 จุด (จากครั้งที่ผ่านมา1,049.79 จุดเมื่อ 8 พ.ย.53) เพิ่มขึ้น 8.37 จุด หรือ 0.80% ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 1,052.36 จุด และปรับตัวต่ำสุดที่ 1,044.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,025.60 ล้านบาท
ขณะที่การซื้อขายแยกเป็นประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 931.78 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันที่ซื้อสุทธิ 774.32 ล้านบาท โดย บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 268.61 ล้านบาท และ 1,437.49 ล้านบาท ตามลำดับ
ภาพรวมวานนี้ หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 236 หลักทรัพย์ ลดลง 135 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 142 หลักทรัพย์
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ TMB มูลค่าการซื้อขาย 2,747.30 ล้านบาท ปิดที่ 2.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,456.60 ล้านบาท ปิดที่ 850.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,087.60 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,739.33 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และ IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,523.77 ล้านบาท ปิดที่ 54.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค วานนี้ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดลบ 27.60 จุด หรือ 0.6% แตะ 4,714.90 จุด , ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ดิ่งลง 150.88 จุด หรือ 1.68% มาปิดที่ระดับ 8,846.31 จุด , ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบ 17.33 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 10,380.77 จุด,ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.59 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ระดับ 2,082.55 จุด
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน อ่อนตัว 14.06 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 2,838.59 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นลบ 66.89 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 12,647.63 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดลบ 4.06 จุด หรือ 0.84% แตะ 481.91 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดปรับตัวสูงขึ้นบวก 89.34 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 23,757.82 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า รับแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นและเศรษฐกิจที่ขยายตัว ที่คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 12 ม.ค.นี้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยฯอีก 0.25% และทั้งปีจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1% ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ได้รับประโยชน์จากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับขึ้นต่อจากเมื่อวานนี้ โดยช่วงนี้เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าตลาดเกิดใหม่อย่างตลาดเอเชียและตลาดหุ้นไทยอยู่ โดยวานนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์มีน้ำหนักต่อการปรับขึ้นของดัชนีฯค่อนข้างมากหลังจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นและจากคาดการณ์ว่าในปีนี้การลงทุนของภาคเอกชนจะมีมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่กลุ่มพลังงานชะลอตัวลงหลังจากปรับขึ้นแรง
“หุ้นกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นทั้ง BBL, KBANK,SCB ส่วนขนาดกลางอย่าง TMB ก็ปรับขึ้นหลังมีข่าวขายหุ้นให้พันธมิตรใหม่ โดยรวมถือว่าโดดเด่นกว่าทั้งภูมิภาค แต่วันนี้(6ม.ค.)มองว่าดัชนีคงจะพักตัวบ้าง ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(6 ม.ค.) ดัชนีคงแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังจากปรับขึ้นมามากแล้วในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยแนวรับอยู่ที่ 1,043 จุด และแนวต้าน 1,050 จุด
