ตลาดหุ้นไทยทะยานไม่หยุด สอดคล้องตลาดภูมิภาค ดัชนีปิดที่ 788.80 จุด ทุบสถิติสูงสุดในรอบกว่า 21 เดือน โดยนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิเพิ่มอีกเกือบ 1.3 พันล้านบาท ส่งผลให้ยอดซื้อสะสมตลอดเดือนมี.ค. ทะลุ 4.1 หมื่นล้านบาท ด้านนักวิเคราะห์แจงบวกตามภูมิภาค-ราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ม็อบแดงถ่อยไม่มีผลต่อการลงทุน หลังจากผ่านพ้นจุดเสี่ยงแล้ว พร้อมเตือนนักลงทุนระวังแรงเทขายทำกำไร
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเศรษฐกิจในยุโรป แต่เมื่อเทียบแล้วตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวดีกว่าภูมิภาค เพราะมีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 792.14 จุด ต่ำสุดที่ 774.20 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับ 788.80 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 17.40 จุด หรือคิดเป็น 2.26% มูลค่าการซื้อขายรวม 23,346.32 ล้านบาท
ดัชนีทุบสถิติสูงสุดรอบ 21 เดือน
โดยดัชนีราคาหุ้นที่ปรับตัวปิดที่ระดับ 788.80 จุดนั้น เป็นการทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 21 เดือน นับจากวันที่ 12 มิ.ย. 51 2551 ดัชนีตลาดหุ้นปิดที่ระดับ 790.80 จุด และวันต่อมา (13 มิ.ย.51) ปิดที่ระดับ 782.64 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดซื้อสุทธิกว่า 1,296.87 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 250.45 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 575.41 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,621.83 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ 1 – 30 มี.ค. 53 สูงกว่า 41,150.81 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) ราคาปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 1.25 บาท หรือคิดเป็น 4.46% มูลค่าการซื้อขาย 1,775.28 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 255 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 3.24% มูลค่าการซื้อขาย 1,468.25 ล้านบาท และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาปิด 148 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 3.14% มูลค่าการซื้อขาย 1,191.11 ล้านบาท
หุ้นเอเชียบวกกันถ้วนหน้า
ด้านดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาคต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 11,097.14 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 110.67 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.01% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 21,374.79 จุด เพิ่มขึ้น 137.36 จุด หรือ 0.65% ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนีสเตรทไทม์ปิดที่ระดับ 2,933.39 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 4.25 จุด หรือ 0.15% ตลาดหุ้นมาเลเซีย ดัชนีคอมโพสิตปิดที่ 1,319.35 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.01% และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิตปิดที่ระดับ 1,700.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.2 จุด หรือ 0.48%
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 20 จุด เนื่องจาก ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 26 จากค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้น และจากการที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานจำนวนมาก รวมถึงมีแรงซื้อเข้ามาลงทุนในหุ้นธนาคารพาณิชย์ จากที่จะได้รับผลดีจากการที่ธนาคารพาณิชย์จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับผลดี
ทั้งนี้ในเรื่องปัจจัยทางการเมืองนั้นไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากได้ผ่านจุดเสี่ยงสูงสุดไปแล้วและที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้จะมีการวางระเบิดเป็นระยะๆ
เตือนระวังแรงขายทำกำไร
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 มี.ค.) คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงเนื่องจากวานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ซึ่งบริษัทแนะนำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรออกมา โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 780 จุด แนวต้านที่ระดับ 800 จุด นางสาวมยุรี โชติวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันไนท์เม็กซ์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 เหรียญสหรัฐ ทำให้นักลงทุนมีการเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีการอ่อนค่า โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงเข้ามาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 26
“ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้จากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวกลับมาที่ระดับกว่า 780 จุด โดยดัชนีสูงสุดระหว่างวันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 790 จุด ”นางสาวมยุรี กล่าว
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร การที่วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว แต่ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 785 จุด แนวต้านที่ระดับ 795 จุด
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเศรษฐกิจในยุโรป แต่เมื่อเทียบแล้วตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวดีกว่าภูมิภาค เพราะมีเงินทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 792.14 จุด ต่ำสุดที่ 774.20 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ระดับ 788.80 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนถึง 17.40 จุด หรือคิดเป็น 2.26% มูลค่าการซื้อขายรวม 23,346.32 ล้านบาท
ดัชนีทุบสถิติสูงสุดรอบ 21 เดือน
โดยดัชนีราคาหุ้นที่ปรับตัวปิดที่ระดับ 788.80 จุดนั้น เป็นการทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 21 เดือน นับจากวันที่ 12 มิ.ย. 51 2551 ดัชนีตลาดหุ้นปิดที่ระดับ 790.80 จุด และวันต่อมา (13 มิ.ย.51) ปิดที่ระดับ 782.64 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดซื้อสุทธิกว่า 1,296.87 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 250.45 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 575.41 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 1,621.83 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิสะสมตั้งแต่ 1 – 30 มี.ค. 53 สูงกว่า 41,150.81 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) ราคาปิดที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 1.25 บาท หรือคิดเป็น 4.46% มูลค่าการซื้อขาย 1,775.28 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 255 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 3.24% มูลค่าการซื้อขาย 1,468.25 ล้านบาท และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาปิด 148 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 3.14% มูลค่าการซื้อขาย 1,191.11 ล้านบาท
หุ้นเอเชียบวกกันถ้วนหน้า
ด้านดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาคต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นกันถ้วนหน้า อาทิ ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 11,097.14 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 110.67 จุด หรือเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.01% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 21,374.79 จุด เพิ่มขึ้น 137.36 จุด หรือ 0.65% ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนีสเตรทไทม์ปิดที่ระดับ 2,933.39 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 4.25 จุด หรือ 0.15% ตลาดหุ้นมาเลเซีย ดัชนีคอมโพสิตปิดที่ 1,319.35 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.01% และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิตปิดที่ระดับ 1,700.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.2 จุด หรือ 0.48%
นางสาวจิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 20 จุด เนื่องจาก ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยติดต่อกันเป็นวันที่ 26 จากค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้น และจากการที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานจำนวนมาก รวมถึงมีแรงซื้อเข้ามาลงทุนในหุ้นธนาคารพาณิชย์ จากที่จะได้รับผลดีจากการที่ธนาคารพาณิชย์จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับผลดี
ทั้งนี้ในเรื่องปัจจัยทางการเมืองนั้นไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากได้ผ่านจุดเสี่ยงสูงสุดไปแล้วและที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้จะมีการวางระเบิดเป็นระยะๆ
เตือนระวังแรงขายทำกำไร
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 มี.ค.) คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงเนื่องจากวานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ซึ่งบริษัทแนะนำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรออกมา โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 780 จุด แนวต้านที่ระดับ 800 จุด นางสาวมยุรี โชติวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันไนท์เม็กซ์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 เหรียญสหรัฐ ทำให้นักลงทุนมีการเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีการอ่อนค่า โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงเข้ามาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 26
“ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้จากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการฟื้นตัวกลับมาที่ระดับกว่า 780 จุด โดยดัชนีสูงสุดระหว่างวันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 790 จุด ”นางสาวมยุรี กล่าว
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร การที่วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว แต่ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 785 จุด แนวต้านที่ระดับ 795 จุด