xs
xsm
sm
md
lg

ผวา"แดงนรก"ปิดกรุง "กรณ์"ซักซ้อม ธปท.สกัดโกลาหล ปชช.แห่ถอนเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"กรณ์" จับเข่าหารือ "ธาริษา" ซักซ้อมแผนรับมือ "แดงนรก" บุกปิดกรุงเทพฯ 12-14 มี.ค.นี้ ชี้ หากเกิดเหตุการณ์จราจลกลางเมือง ปชช.แตกตื่นแห่ถอนเงิน แบงก์มีเงินสดในมือเพียงพอแน่ มั่นใจไม่เกิดเหตุโกลาหล ยันไม่มีการสั่งปิดแบงก์ พร้มอยอมรับ ปชช.เริ่มกังวล มีการแห่ซื้อสินค้ากักตุน ด้านศูนย์การค้าผวาหนัก หากรุนแรงพร้อมปิดให้บริการ เพื่อความปลอดภัย

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการใช้มาตรการดูแลและการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2553 นี้ โดยระบุว่า กระทรวงการคลังได้เตรียมหารือและประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อซักซ้อมขั้นตอนต่างๆ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

"ตอนนี้ ผมกำลังเตรียมเดินทางไปหารือกับผู้ว่า ธปท. เพื่อดำเนินการซักซ้อมแผนรองรับ หากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น จนส่งผลกระทบไปสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งตอนนี้ ภาคเอกชนเอง ทั้งธนาคารพาณิชย์ บริษัทผลิตและจำหน่ายก๊าซ-น้ำมัน รวมถึงสถานีบริการต่างๆ ได้ประกาศใช้มาตรการคุมเข้มดูแลความปลอดภัยไปแล้ว"

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวว่า ขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้ใช้แผนฉุกเฉิน และมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับกรณีที่เกิดเหตุการณ์ ประชาชนแตกตื่นแย่งกันถอนเงินในบัญชีของตนเอง ซึ่งอาจเกินความโกลาหลวุ่นวายได้ ดังนั้น ต้องมีแผนรองรับเอาไว้ในทุกกรณีที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

"วันนี้ เป็นการซักซ้อมประเด็นทางเศรษฐกิจหลายประเด็น และเตรียมความพร้อมรองรับเหตุการร์ทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเสาร์-อาทิตย์นี้ โดยเฉพาะความกังวลของพี่น้องประชาชนที่มีในเรื่องของความจำเป็นในแง่การกักตุนไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือสินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ เนื่องจากกังวลว่าอาจมีการใช้ความรุนแรง"

สำหรับประเด็นแรก อยากเรียนฝากถึงทุกคนว่าความกังวลของพี่น้องประชาชนสะท้อนให้เห็นถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น จากความกังวลที่มีต่อสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรง เป็นอีกสัญญาณหนึ่งต่อพี่น้องประชาชนทุกๆคนว่า อย่าถูกใช้เป็นเครื่องมือโดยกลุ่มคนไม่กี่คนโดยการที่จะสร้างสถานการณ์สร้างความเดือดร้อนให้กับระชาชนโดยรวม

รมว.คลัง ยอมรับว่า สถานการณ์ในตอนนี้ ประชาชนเริ่มกังวลเกือบถึงขั้นที่จะตื่นตะหนกกันแล้ว มีการแห่ไปซื้อสินค้าเพื่อกักตุน หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งหากเกิดเหตุการไม่สงบในบ้านเมือง คงไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อใคร เป็นการทำลายบ้านของตัวเอง ทำลายประเทศชาติและสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน

“ ในส่วนของรัฐบาลรวมไปถึงทางธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างที่ยืนยันจะไม่มีประเด็นปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง ไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้นที่จะต้องตุนเงินสดไว้ในมือ ไม่ว่าท่านมีความจำเป็นต้องเข้าถึงเงิน ท่านสามารถที่จะกดตู้เอทีเอ็มได้ตามปกติ ถ้าเข้าไปถึงตู้ที่เคยใช้ไม่ได้ เพราะมีการชุมนุมอยู่ใกล้เคียงก็ไปใช้เอทีเอ็มที่อื่นได้”

โดยวันนี้ ธปท.ได้ให้คำยืนยันว่า จะไม่มีประเด็นปัญหาแต่อย่างใด ส่วนประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆหากมีการใช้ความรุนแรงก็ต้องมีผลกระทบต่อระดับความเชื่อมั่น ซึ่งผมกำลังจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มนักลงทุนที่มีความสำคัญมากที่สุดต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อชักจูงให้ญี่ปุ่นยืนยันระดับความสนใจในการที่จะเป็นนักลงทุนที่มีความสำคัญของไทย แต่ถ้ามีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้นจะทำให้งานของรัฐบาล งานภาคเอกชนทุกภาคส่วนลำบากมากยิ่งขึ้นในการรักษาระดับความเชื่อมั่น สุดท้ายจะส่งผลอย่างปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยังมีความหวังว่าทุกคนจะมีสติและรักษาผลประโยชน์สูงสุดไว้โดยไม่ใช้ความรุนแรง

ต่อข้อักถามประเด็นที่ว่า สถาบันการเงินจะปิดหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า สถานบันการเงินไม่มีคำสั่งหรือนโยบายที่จะปิดการทำการแต่อย่างใด แต่มีสิทธิ์ที่จะประเมินสถานการณ์เพื่อรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินและพนักงานที่จะเลือกที่จะปิดสำนักงานใดๆ ที่อยู่ภายในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงได้ ตรงนี้จะเป็นวิจารณญาณของสถาบันการเงินเอง อย่างไรก็แล้วแต่ถ้ามีการประเมินว่าสาขาของธนาคารใดธนาคารหนึ่ง อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงประชาชนคงไม่อยากไปใช้บริการในสาขานั้นๆอยู่แล้ว ก็สามารถไปใช้สาขาอื่นได้

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นต้องพูดคุยกับนายธนาคารต่างๆ เพื่อรองรับปัญหานี้หรือไม่ รมว. คลัง กล่าวว่า เรียบร้อยหมดแล้ว เขาก็กังวลเหมือนประชาชนทั่วไปไม่อยากเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย ไม่อยากเห็นคนกลุ่มเล็กๆเพียงกลุ่มเดียวสร้างสถานการณ์ขึ้นมาภายใต้การอ้างถึงประชาธิปไตย เพราะตามนิยามใครก็ตามที่ใช้ความรุนแรงไม่ใช่นักประชาธิปไตยอยู่แล้ว ไม่สามารถที่จะนำมาอ้างถึงการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยได้มันเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกัน ครั้งนี้ตนมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการเห็นการใช้ความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 12 มีนาคม 2553 นี้ ไม่มีการสั่งปิดธนาคารใน กทม.ใช่หรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ไม่มี ธนาคารแต่ละแห่งสามารถประเมินสถานการณ์ และใช้วิจารณญาณของตัวเองในการปิดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประเมินผลข้างเคียงเศรษฐกิจหรือไม่ ในวันศุกร์หรือวันจันทร์ตลาดหุ้นจะมีปัญหาแดงทั้งกระดานหรือเปล่า รมว. คลัง กล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์ คิดว่าความเข้าใจถึงสถานการณ์บ้านเมืองของนักลงทุนในประเทศไทย ก็มีมากสะสมมาหลายปีตราบใดที่เป็นการชุมนุมโดยไม่มีการใช้ความรุนแรง แต่เป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าไม่มีปัญหาใดๆและจะทำให้นักลงทุนโล่งอกโล่งใจทำให้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยขยับไปในทิศทางบวกได้ด้วยซ้ำไปในสัปดาห์หน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดภาวะฉุกเฉินต้องมีการปิดการซื้อขายหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ณ วันนี้ไม่มีมาตรการใดๆทั้งสิ้น การใช้ พรบ.ฉุกเฉินเป็นเรื่องการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยทรัพย์สินพี่น้องประชาชนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าสถานการณ์รุนแรงเศรษฐกิจจะไปกระทบเศรษฐกิจมากขนาดไหน ถึงขั้นฉุดจีดีพีที่ประเมินไว้ ให้ต่ำกว่า 4.7 หรือไม่ รมว. คลัง กล่าวว่า บ้านเราเพิ่งพาอันดับแรกอุตสาหกรรมส่งออก การลงทุน อุตสาหกรรมการบริการ การท่องเที่ยว เพิ่งพาพี่น้องประชนคนไทย ที่ให้มีกำลังซื้อในการจับจ่ายใช้สอย หากเกิดจลาจลมีการเสียเลือดเนื้อในช่วงสัปดาห์นี้จะกระทบกับทุกภาคส่วน ส่วนจะกระทบต่อความสามารถในการขยายตัวต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างไรคงประเมินยาก

รมว.คลัง ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะตอนนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจกำลังดีวันดีคืน รอสักพักคงมีการเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยของบ้านเรา ฉะนั้นไม่มีเหตุผลใดๆนอกจากผลประโยชน์ส่วนตัวของคนไม่กี่คน ที่จะสร้างสถานการณ์ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนทุกประเทศ อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวเศรฐกิจเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องหาวิธีให้ประเทศชาติยืนอยู่ได้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้น อย่างที่เรียนเสียดายโอกาส เสียดายเวลา เสียดายความอยู่ดีเป็นสุขของพี่น้องประชาชน

ด้านนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประเมินว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2553 ไม่น่าจะรุนแรงเท่ากับในช่วงเดือนเมษายน 2552 ซึ่งในวันพรุ่งนี้ หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมสถานการณ์ ก็ประเมินว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นลงทุนเพียงเล็กน้อย เพราะในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งนักลงทุนเองก็ได้มีความเข้าใจมากขึ้นในการเข้าควบคุมสถานการณ์ของรัฐบาล จึงไม่น่าจะกระทบความเชื่อมั่น

นายวินัย ศรีชอบธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การค้า MBK Center (มาบุญครอง) เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าได้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยรองรับการชุมนุมทางการเมืองที่จะมีการเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้ โดยยังคงต้องรอประเมินสถานการณ์เป็นระยะว่าจะมีความรุนแรงถึงขั้นต้องปิดให้บริการหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนที่มาใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายของการจัดรายส่งเสริมการขายที่มีในช่วงสัปดาห์นี้ แต่เชื่อว่าการที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาสร้างความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวให้กับประชาชน จะช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น