xs
xsm
sm
md
lg

"ทอท."รื้อแผนลงทุนสุวรรณภูมิ ชะลออาคารผู้โดยสารในปท.-รันเวย์ที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทอท.ปรับแผนลงทุนสุวรรณภูมิ ก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (มิดฟิล คองคอร์ด) 6 หมื่นล้านบาทก่อน ชะลออาคารผู้โดยสารในประเทศและรันเวย์ที่ 3 หลังรัฐบาลส่งสัญญาณใช้ดอนเมืองคู่ พร้อมสั่งเลิกสัญญาTAGS บริหารฟรีโซน เหตุมีปัญหาสภาพคล่องบริการห่วย ออกมาตรการช่วยสายการบิน ลดค่า landing fee และ parking ให้อีกถึงสิ้นปี 53 พร้อมมีมติเลิกสัญญาบริหารฟรีโซนกับ TAGS หลังตรวจพบทำผิดสัญญาร้ายแรง ยันกรอบซื้อคืนพื้นที่NEF เกิน 40 ตามเดิม ไม่มีค่าการตลาด

นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดทอท.วานนี้ (25 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมมีความเห็นให้ทอท.ปรับแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้ลงทุนโครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (มิดฟิล คองคอร์ด) วงเงินประมาณ 60,741.614 ล้านบาท ส่วนการลงทุนงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ กับทางวิ่ง (รันเวย์) ที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิให้ชะลอไว้ก่อน โดยอนุมัติหลักการให้ทอท.ทำแผนเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีได้หลังปรับแผนและตัวเลขการลงทุนเสร็จ

พรัอมกันนี้ได้มีมติให้ฝ่ายบริหารทอท.ประสานกับ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อเร่งรัดการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเรื่อง Single Airport และ Multi Airport ให้สรุปผลเบื้องต้นภายในเดือนเม.ย.และสรุปผลศึกษาขั้นสุดท้ายในเดือนพ.ค. 2553 เพื่อให้สอดคลัองกับการที่กระทรวงคมนาคมได้ว่าจ้าง สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ ไออาร์ต้า ศึกษาตามที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้ให้หาความชัดเจน เพื่อนำข้อสรุปเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

“ไม่ว่า ICAO กับ ไออาร์ต้าจะสรุปผลศึกษาเรื่องการใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ออกมาอย่างไรก็จะเสนอครม.ตัดสินใจ และจะได้ยุติเสียที ซึ่งในระหว่างรอการศึกษาบอร์ดจึงเห็นว่าควรปรับแผนลงทุนสุวรรณภูมิ โดยพักโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร และรันเวย์ที่ 3 ซึ่งยังติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมไว้ก่อน ซึ่งเดิมมิดฟิล คองคอร์ดและรันเวย์ที่3 ลงทุนประมาณ 74,000 ล้านบาท โดยให้ปรับรายละเอียดวงเงินใหม่และให้เสนอกระทรวงคมนาคมได้เลย เพื่อความรวดเร็ว พอครม.มีมติอย่างไรค่อยมาเสนอบอร์ดอีกที” นายปิยะพันธ์ กล่าว

***ลดค่า landing fee และ parking ให้ถึงสิ้นปี 53
 
นายปิยะพันธ์ กล่าวว่า บอร์ดมีมติเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการในปี 2553 จากเดิมที่มาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ครบกำหนด เมื่อสิ้นเดือนธ.ค. 2552 โดยปรับลดค่าธรรมเนียมขึ้น-ลงอากาศยาน (landing fee) ลง 10% และค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (parking fee) 20% เป็นเวลา 10 เดือน (มี.ค.-ธ.ค.53) ปรับลดค่าตอบแทน เฉพาะสัญญาที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการของทอท. หรือสัญญาที่มีการลงนามก่อนวันที่ 25 พ.ย. 2551 โดยการลดผลตอบแทนคงที่ที่ต้องจ่ายให้ทอท. 5% และเลื่อนการจ่ายการันตีรายได้ขั้นต่ำจากปี 2553 เป็นปี 2554 ซึ่งคาดว่ามาตรการลดค่า landing fee และ parking fee จะทำให้รายได้ลดลง ประมาณ 450 ล้านบาท

โดยหากทอท.ไม่มีมาตรการช่วยเหลือในขณะนี้ สายการบินอาจจะลดเที่ยวบินหรือไปใช้สนามบินอื่นที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่าเช่น สิงคโปร์ หรืออินชอน ซึ่งเริ่มแจ้งมาแล้ว นอกจากนี้ยังให้อำนาจกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ทอท.สามารถตัดสินใจ ในการทำแผนตลาดอื่นๆ ในการจูงใจเพิ่มเติมและเจรจากับสายการบินเป็นรายกรณีเพื่อแข่งขันกับสนามบินอื่นได้อย่างคล่องตัวโดยให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไปกำหนดกรอบอำนาจที่ชัดเจนและมาเสนอบอร์ดพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

***เห็นชอบเลิกสัญญา TAGS บริหารฟรีโซนห่วย

นอกจากนี้ที่ประชุมรับทราบปัญหาการดำเนินงานของ บริษัท ไทยแอร์พอร์ตส์ กราวด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (TAGS) ในการดำเนินงานรับจ้างบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าภายในเขตปลอดอากร ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยคณะกรรมการตรวจงานจ้างเสนอให้ยกเลิกสัญญาเนื่องจากพบว่า TAGS ทำผิดสัญญาหลายประการอย่างเรื่องร้ายแรง เช่น ปัญหาพนักงาน TAGS หยุดงาน , ขโมยสินค้า ,ไม่จ่ายเงินเดือนค่าจ้างพนักงานและค่าจ้างบริษัทภายนอก (Outsource) เนื่องจากค่าจ้างที่ทอท.จ่ายให้TAGS ถูกกรมบังคับคดีอายัติทั้งหมด เป็นเงินรวมประมาณ 40 ล้านบาท ทำให้การบริการมีปัญหาและได้รับการตำหนิจากผู้ใช้ ทำให้ทอท.ต้องเข้าไปทำงานแทน

โดยการยกเลิกมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. 2553 เป็นต้นไป โดยคาดว่าทอท.จะใช้เวลาในการ จัดทำร่างเงื่อนไขประกวดราคา (TOR) เพื่อเปิดประมูลหาผู้ประกอบการรายใหม่ ประมาณ 3 เดือนซึ่งในระหว่างนั้น จะการ จ้างเอกชนรายอื่นมาบริหารงานแทนชั่วคราว โดยอาจเป็นบรรดาเอาท์ซอร์สที่ทำงานอยู่ในบริเวณปลอดอากรอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ได้ให้ทอท.แยกกิจกรรมภายในพื้นที่ฟรีโซนว่ากิจกรรมใดควรนำมาทำเอง เช่น งานรักษาความปลอดภัย งานรักษาความสะอาด เป็นต้นและให้ผู้บริหารฟรีโซนรายใหม่ดูแลกิจกรรมด้านการบริการเฉพาะด้านเท่านั้น

***อนุมัติจ้างที่ปรึกษาประเมินราคา 20 ล.เร่งจ่ายชดเชยเสียง

นอกจากนี้บอร์ดมีมติเห็นชอบให้ทอท.ว่าจ้างที่ปรึกษาภายในวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อทำหน้าที่ สำรวจประเมินราคา และตรวจสอบผลการประเมินราคาค่าปรับปรุงอาคารและเอกสิทธิ์ของอาคารที่ได้รับการชดเชยผลกระทบด้านมลภาวะทางเสียงสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเร่งรัดการจ่ายชดเชยให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ และให้ใช้วิธีการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์กรณีพื้นที่ผลกระทบ NEF มากกว่า 40 แบบเดิม ตามพระราชบัญญัติเวนคืน พ.ศ. 2530 ซึ่งไม่มีค่าการตลาด เนื่องจากให้ประโยชน์กับผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น