“พาณิชย์”เปิดซองซื้อข้าวรัฐ 5 แสนตัน พบราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก ยังมั่นใจต่อรองได้เพิ่มขึ้น จับตาล้มประมูลซ้ำ เหตุราคาไม่ดี หรืออาจขายแค่บางส่วน “มาร์ค”สั่งหาไอ้โม่งปล่อยข่าวทุบราคาข้าว ขณะที่ “วิจักร”ยันไม่เคยพูดโละสต๊อก 2 ล้านตัน อัดสำนักข่าวต่างประเทศต้นเหตุสื่อสารผิดทำตลาดป่วน
นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า วันนี้ (24 ก.พ.) คณะทำงานเจรจาต่อรองที่มีตนเป็นประธาน จะเรียกผู้ส่งออกที่เสนอราคาผ่านเกณฑ์มาต่อรองราคา ซึ่งน่าจะได้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจากราคาที่เสนอซื้อ หลังจากนั้น 2-3 วันจะสรุปผลเสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ
“ยังพูดไม่ได้ว่า ราคาที่เสนอมาเป็นอย่างไร เพราะการเสนอราคา ผู้ส่งออกอาจกังวลเรื่องการค้ำประกันซอง 2% ของมูลค่าข้าวที่เสนอซื้อ เลยเสนอราคาไม่สูงมาก แต่เชื่อว่าจะต่อรองเพิ่มขึ้นได้อีก ส่วนจะขายหรือไม่อยู่ที่ กขช. และครม.จะพิจารณา” นายวิจักรกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาล 500,000 ตัน ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยผู้ส่งออกเสนอราคาซื้อข้าวหอมปทุมธานี นาปรังปี 2551 ตันละ 15,500-182,000 บาท ส่วนนาปีปี 2551/52 เสนอซื้อตันละ 17,000-18,500 บาท จากราคาตลาดปัจจุบันตันละ 23,000-24,000 บาท ขณะที่ข้าวขาว 5% นาปรังปี 2551 เสนอซื้อตันละ 11,665-14,950 บาท และนาปีปี 2551/52 เสนอซื้อตันละ 13,850-15,550 บาท จากราคาตลาดตันละ 16,800-16,900 บาท
นายวิจักรกล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ตนให้สัมภาษณ์รัฐบาลจะเปิดประมูลข้าวในสต๊อก 2 ล้านตัน ตามที่ปรากฏข่าวของสำนักข่าวบลูมเบอร์กเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะในการแถลงข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีนักข่าวจากสำนักงานนี้เข้ามาร่วมทำข่าวด้วย และตนระบุแค่จำนวน 500,000 ตันที่รัฐจะเปิดประมูลเท่านั้น หากมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้นจริงก็พร้อมจะให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวดังกล่าวให้โทรศัพท์มาขอโทษกรณีดังกล่าวแล้ว
“พอรัฐบาลบอกจะเปิดประมูลข้าว ก็มีการออกข่าวข้าวเป็นรายวัน ซึ่งกดดันราคามาก ทำให้ราคาตกต่ำ ขอวิงวอนว่าอย่าเล่นข่าวแบบนี้เลย ถ้าเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง และพี่น้องเกษตรกร หากรัฐบาลขายไม่ได้ ก็จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บอีกปีละ 2,000 ล้านบาท รวมค่าดอกเบี้ยด้วยจะสูงถึงกว่า 5,000 ล้านบาท ใครจะรับผิดชอบ”นายวิจักรกล่าว
แหล่งข่าวจากวงการผู้ส่งออก กล่าวว่า ราคาที่เสนอซื้อในครั้งนี้ ถือว่าเป็นราคาที่สูงแล้ว เพราะผู้ส่งออกต้องเสียค่าปรับสภาพ และค่าขนส่งอีก แต่หากกระทรวงพาณิชย์ อ้างว่า ราคาที่ผู้ส่งเสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาดมาก และเจรจาต่อรองให้ขึ้นราคา คงจะเพิ่มราคาให้ได้ไม่เกินตันละ 500 บาท และเมื่อเป็นเช่นนี้ คาดว่าการประมูลครั้งนี้น่าจะล้มอีกครั้งหนึ่ง หรือหากจะขายจริง ก็คงให้ผู้ส่งออกที่เสนอซื้อราคาสูงๆ แต่ซื้อปริมาณน้อยเพียงไม่กี่รายเท่านั้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม. ได้มีการพูดถึงปัญหาความสับสนกรณีข่าวที่ระบุว่า จะมีการระบายข้าว 2 ล้านตัน โดยขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบให้เกิดความผันผวนในตลาดในเรื่องของราคา ดังนั้น ครม. จึงมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ ไปสอบสวนว่าข่าวดังกล่าวออกมาจากไหน อย่างไร เพราะสร้างความเสียหาย และรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีก
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติในหลักการเรื่องข้าวเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรในโครงการประกันรายได้รอบแรกที่ยังตกค้างอยู่ กรณีที่เกษตรกรทำสัญญาและถูกกำหนดสัญญาให้ใช้สิทธิในช่วงที่ไม่มีเงินชดเชย ซึ่งตอนมีเงินชดเชยบางส่วนอาจไม่ทราบ จึงใช้หลักว่าใครอยู่ในข่ายนี้ก็อนุโลมให้ใช้สิทธิได้ ในช่วงสุดท้ายแล้วแต่กรณี ส่วนการประกันรายได้ในรอบสอง ครม.อนุมัติการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมมาขึ้นทะเบียนและทำประชาคม สามารถรวบรวมพื้นที่เพาะปลูกได้ทั่วประเทศ และจะส่งข้อมูลได้ในวันที่ 9 มี.ค. ซึ่งจะเป็นตัวช่วยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการตรวจสอบความถูกต้องของการขึ้นทะเบียนและการทำประชาคมได้