โฮมโปรฯเผยแผยลุยตลาดอาเซี่ยน มุ่งเป้า4ประเทศหลัก เวียดนาม ฟิลิปิน มาเลเวีย และสิงค์โปร คาดปี54-55ประกาศแผนลงทุนแน่นอน แจงผลดำเนินการปี52 ยอดขาย 20,329.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี51กว่า 9.65% กำไรสุทธิ 1,142.86 ล้านบาท เติบจากปีก่อนหน้า 19.12%
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนการขยายการลงทุนระยะยาวในต่างประเทศซึ่งขระนี้บริษัทิยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในต่างประเทศ จากทั้งหมด 4 ขั้นตอนในการศึกษาประกอบด้วย 1.ขั้นตอนการจัดหาข้อมูลด้านการตลาด 2.การศึกษาพฤติกรรมของประชนชนในประเทศกลุ่มเป้าหมาย 3.ขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ในการลทุนในต่างประเทศ และ4.ขั้นตอนการลงทุน
“ บริษัทมีแผนการขยายการลงทุนในต่างประเทศแน่นอน ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ 3 ของแผนดำเนินการแล้ว โดยมุ่งเป้าการลงทุนในประเทศแถบอาเซี่ยนคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมฒุลอีกประมาณ1-2ปี โดยคาดว่าปี54-55 น่าจะประกาศแผนลงทุนของบรัทซึ่งเป้นขั้นตอนที่4ได้ ทั้งนี้ข้อดีของการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศไม่ใช่เพียงการเปิดสาขาหรือทำตลาดขายสินค้าของบริษัทเพียงอย่างเดียวแต่ ยังมีโอกาสในการแลกเปลี่ยนสิ้นค้าที่ สามารถนำสินค้าแบรนด์ต่างๆไปขายในต่างประเทศแลยังสามารถนำสินค้าในแบรนด์อื่นๆมาขายในประเทศได้ด้วย”
ส่วนรูปแบบการลงทุนในต่างประเทศนั้นอาจจะมีรูปแบบของการร่วมทุน ซึงบริษัทมีนโยบายในการลงทุนว่าจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนรูปแบบของสาขานั้นจะมีรูปแบบเหมือนๆ กับสาขาที่เปิดบริการในประเทสดดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนต่อสาขาประมาณ 200ล้านบาทต่อสาขา สำหรับขนาดพื้นที่ของสาขานั้นก็จะเท่าๆกับขนาดพื้นที่สาขาในประเทศเช่นกัน โดยเบื้องต้นประเทศที่บรัทสนใจเข้าไปลงทุนมี4ปีเทศประกอบด้วย เวียดนาม ฟิลิปิน มาเลเวีย และสิงค์โปร
สำหรับ ปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 1,142.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 183.44 ล้านบาท หรือ 19.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี51 โดยบริษัทมี ยอดขาย 20,329.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว1,788.84 ล้านบาท หรือ 9.65% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของยอดขายดังกล่าวว่าเนื่องจากการเติบโตของสาขาเดิม, การเปิดสาขาใหม่และการจัดงาน Homepro Expo ทำให้มีกำไรขั้นต้นเป็นจำนวนเงิน 4,934.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน540.50 ล้านบาท หรือ 12.30%
โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเท่ากับ 24.27% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 23.70% เป็นผลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกลุ่มสินค้าที่ขาย และการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนขาย ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายทางการเงินประจำปี52 จำนวน 113.13ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี51 จำนวน 21.28 ล้านบาท หรือ 15.83% เป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวบางส่วน และการปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงของเงินกู้ระยะสั้นตามสภาวะตลาด
นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนการขยายการลงทุนระยะยาวในต่างประเทศซึ่งขระนี้บริษัทิยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงานและศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในต่างประเทศ จากทั้งหมด 4 ขั้นตอนในการศึกษาประกอบด้วย 1.ขั้นตอนการจัดหาข้อมูลด้านการตลาด 2.การศึกษาพฤติกรรมของประชนชนในประเทศกลุ่มเป้าหมาย 3.ขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ในการลทุนในต่างประเทศ และ4.ขั้นตอนการลงทุน
“ บริษัทมีแผนการขยายการลงทุนในต่างประเทศแน่นอน ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ 3 ของแผนดำเนินการแล้ว โดยมุ่งเป้าการลงทุนในประเทศแถบอาเซี่ยนคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมฒุลอีกประมาณ1-2ปี โดยคาดว่าปี54-55 น่าจะประกาศแผนลงทุนของบรัทซึ่งเป้นขั้นตอนที่4ได้ ทั้งนี้ข้อดีของการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศไม่ใช่เพียงการเปิดสาขาหรือทำตลาดขายสินค้าของบริษัทเพียงอย่างเดียวแต่ ยังมีโอกาสในการแลกเปลี่ยนสิ้นค้าที่ สามารถนำสินค้าแบรนด์ต่างๆไปขายในต่างประเทศแลยังสามารถนำสินค้าในแบรนด์อื่นๆมาขายในประเทศได้ด้วย”
ส่วนรูปแบบการลงทุนในต่างประเทศนั้นอาจจะมีรูปแบบของการร่วมทุน ซึงบริษัทมีนโยบายในการลงทุนว่าจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนรูปแบบของสาขานั้นจะมีรูปแบบเหมือนๆ กับสาขาที่เปิดบริการในประเทสดดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนต่อสาขาประมาณ 200ล้านบาทต่อสาขา สำหรับขนาดพื้นที่ของสาขานั้นก็จะเท่าๆกับขนาดพื้นที่สาขาในประเทศเช่นกัน โดยเบื้องต้นประเทศที่บรัทสนใจเข้าไปลงทุนมี4ปีเทศประกอบด้วย เวียดนาม ฟิลิปิน มาเลเวีย และสิงค์โปร
สำหรับ ปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลกำไรสุทธิเท่ากับ 1,142.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 183.44 ล้านบาท หรือ 19.12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี51 โดยบริษัทมี ยอดขาย 20,329.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว1,788.84 ล้านบาท หรือ 9.65% ซึ่งการเพิ่มขึ้นของยอดขายดังกล่าวว่าเนื่องจากการเติบโตของสาขาเดิม, การเปิดสาขาใหม่และการจัดงาน Homepro Expo ทำให้มีกำไรขั้นต้นเป็นจำนวนเงิน 4,934.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน540.50 ล้านบาท หรือ 12.30%
โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเท่ากับ 24.27% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 23.70% เป็นผลเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกลุ่มสินค้าที่ขาย และการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนขาย ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายทางการเงินประจำปี52 จำนวน 113.13ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี51 จำนวน 21.28 ล้านบาท หรือ 15.83% เป็นผลจากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวบางส่วน และการปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงของเงินกู้ระยะสั้นตามสภาวะตลาด